กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "สูงวัยหัวใจยังเวิร์ก" ปีที่ 3 เพื่อพัฒนาผู้สูงอายุให้ก้าวทันเทคโนโลยี ลดช่องว่างระหว่างวัย และกระตุ้นเรื่อง Active Aging คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย พร้อมความสนุกสนาน มิตรภาพระหว่างกัน รวมไปถึงสร้างความผูกพันเป็นคอมมูนิตี้ให้กับการเข้าร่วมอบรม  นอกเหนือจากนั้นยังจัดหนัก จัดเต็มในภาคทฤษฎี กับเนื้อหาการอบรมทักษะผลิตสื่อ เพื่อการผันตัวเป็นอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งสามารถใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือสังคมในการคิด แยกย้าย วิเคราะห์ และรู้เท่าทันสื่อปลอม ที่มาหลอกลวงได้ 

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แล้ว โดยมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ส่งผลต่อการขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากร ในขณะที่ภูมิทัศน์สื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างผันผวน ทั้งรูปแบบ และการใช้งานสี่อ โดยที่ผ่านมาพบว่า มีผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์เป็นจำนวนมาก แต่ในอีกทางก็มีผู้สูงอายุที่สามารถใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ได้ดีเช่นกัน (จากข้อมูล ในปี 2567 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Complete Aged Society) ที่ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าถึงและใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง ต่อวัน และช่วงอายุ 50-54 ปี ที่กำลังจะก้าวสู่วัยผู้สูงอายุ ใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยสูงถึง 4-5 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีพฤติกรรมพบว่า กิจกรรมยอดนิยมคือ การใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร แบ่งปัน มีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รูปภาพ ข้อความวิดีโอ ข้อมูลข่าวสารต่างๆร่วมกัน ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุด และยังเกิดกระแสทำคลิป reels สร้างรายได้ในกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้นอีกด้วย)

โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า และมีส่วนสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างมาก กองทุนจึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมผลิตเนื้อหาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับผู้สูงอายุ มาแล้ว 2 ปีภายใต้ชื่อโครงการ "สูงวัยหัวใจยังเวิร์ก" ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้สูงอายุในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีและมีส่วนร่วมกับครอบครัว ชุมชนและสังคม สามารถปรับตัวไปกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาเสริมสร้างคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ และสร้างผลผลิตให้สังคมได้ สะท้อนจากผลของโครงการในปีที่ 1 และปีที่ 2 อีกด้วย

สำหรับโครงการ "สูงวัยหัวใจยังเวิร์ก" นี้ ได้รับความสนใจจากสื่อทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่เป็นโครงการต้นแบบที่ช่วยลดช่องว่างระหว่างช่วงวัย จึงมีจุดมุ่งหมายนำไปขยายผลในวงกว้างมากขึ้น นำมาซึ่งการดำเนินโครงการต่อเนื่องสู่ปีที่ 3 โดยจัดอบรมทักษะการผลิตสื่อให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มเติมความรู้ใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แพลตฟอร์ม Tiktok รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการรู้เท่าทันสื่อสำหรับผู้สูงอายุให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของสื่อในปัจจุบัน และสร้างเครือข่ายรวมกลุ่มผู้อบรมทั้ง 3  รุ่น ประสานพลังความร่วมมือโดยมีเป้าหมายสร้างคลับจิทัล (ดิจิคลับ) สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักในคุณค่าของตนเอง ว่าสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

ดร.ธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า เรามีความภูมิใจอย่างมาก จากโครงการ 2 ปีที่ผ่านมา เราได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ มาทำสกู๊ปข่าว  เรื่องการสร้างสัมพันธ์ภาพระหว่างวัย ผ่านโครงการสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก และการปรับตัวของผู้สูงอายุในประเทศไทยเข้าสู่สังคมดิจิทัล โดยสังคมไทยในวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลายมิติ ทั้งนี้สังคมไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 14 ล้านคน และนอกจากนี้อัตราการใช้สื่อออนไลน์ของไทย มีสัดส่วนผู้สูงอายุ เข้าถึงมากกว่าประเทศอื่นๆอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมักจะประสบภัยออนไลน์เยอะมาก ทั้งนี้โครงการสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก มี 3 เป้าหมายหลัก ด้านที่หนึ่งสื่อมีผลกระทบต่อทุกคนและในผู้สื่ออายุต้องปรับตัว ด้านที่สองทำอย่างไรให้ทุกคนที่ใช้สื่อออนไลน์รู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเราได้ให้องค์ความรู้ที่เข็มแข็ง ฉะนั้นการสื่อดิจิทัล เราจึงเน้นเป็นหนึ่งสาระสำคัญของทำโครงการนี้ต่อเนื่องทุกปี อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการให้ผู้สูงอายุได้มีพื้นที่ในการปล่อยของ ไม่ว่าจะมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือคอนเทนท์ครีเอเตอร์ได้ โดยมีผู้สอน การตัดต่อ พร้อมทั้งตรวจสอบว่าภาพและเสียงที่นำมาใช้มีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ โดยในปีนี้มีความแตกต่างด้วย โครงการได้ขยายกลุ่มเป้าหมาย โดยเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็น 350 คน ซึ่งมีการทำกิจกรรมทั้งออนไซต์และออนไลน์ สำหรับกระแสตอบรับที่ผ่านของโครงการสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก มีการเติบโตขึ้นพอสมควร ผู้เข้าร่วมโครงการมาเป็นเครือข่ายผู้สูงอายุที่รู้เท่าทันสื่อ ซึ่งนี้คือต้นทุนทางสังคม เป็นทุนมนุษย์ที่มาช่วยกันทำหน้าที่ดูแลสังคม ดังนั้นจึงเปิดชมรม DIGI CLUB ที่ให้ทุกคนได้มาใช้ในพื้นที่พร้อมทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ และดูแลซึ่งกัน ดูแลคนรอบข้าง รวมถึงการเพิ่มความสนุก ด้วยการใช้เพลงมาทำกิจกรรมอีกด้วย

นายเทินพันธ์ แพนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาสื่อสำหรับประชาชน กล่าวถึงรายละเอียดโครงการฯว่า ปีนี้โครงการสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก 3  เน้นส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็น Active Aging สร้างการรวมกลุ่ม แสดงพลังอย่างสร้างสรรค์ และมีความสุขในช่วงเวลาที่มีเวลาเป็นของตนเองอย่างอิสระ ความพิเศษเพิ่มเติมคือเราจะมี เพลงและมิวสิกวิดีโอ ที่มีเนื้อหาสร้างกำลังใจ สร้างสรรค์โดย คุณสุเทพ ประยูรพิทักษ์  นอกจากนั้นโครงการ "สูงวัยหัวใจยังเวิร์ก"ปีที่ 3 ยังมีการเพิ่มทักษะของการอบรมความรู้ใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 5 หลักสูตรดังนี้ 1.YOLD Creator ผลิตสื่อด้วยโทรศัพท์มือถือ  2.YOLD Storyteller นักเล่าเรื่องออนไลน์วัยเก๋า 3.YOLD Digital Literacy รู้ทันสื่อ ต่อต้านข่าวลวง ข่าวปลอม 4.YOLD Influencer สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 5.AI For senior รู้จัก เข้าใจ ใช้ประโยชน์ จาก AI โดยโครงการสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก 3 มีการอบรมทั้งแบบออนไลน์ และออนไซต์ และยังมีเพลงสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก และมิวสิกวิดีโอ ที่มีเนื้อหาสร้างกำลังใจ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็น Active Aging สร้างการรวมกลุ่ม แสดงพลังอย่างสร้างสรรค์ พร้อมท่าเต้นช่วยฝึกสมองประกอบเพลงสูงวัยหัวใจยังเวิร์ก ให้มีความสุขในช่วงเวลาที่มีเวลาเป็นของตนเองอย่างอิสระ รวมทั้งดิจิคลับ โดยศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา

สำหรับผู้สูงวัยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมดิจิคลับไลฟ์ ที่จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดี ทาง Facebook : สูงวัยหัวใจยังเวิร์ก โดยมีทั้งหมด 5 คลาส ดังต่อไปนี้ 1.DIGI CLUB คลาส เต้นต้านโรค สุดมันส์เพราะหัวใจมันยังเวิร์ก โดย ครูมาร์ค ธีระธาดา จีนจะโป๊ะ 2.DIGI CLUB คลาส ศิลปะ วาดสีสันชีวิต โดยลุงน้อย สุรินทร์ สนธิระติ 3.DIGI CLUB คลาส ปรับบุคลิกภาพ แต่งหน้า ปรับลุกส์ โดย โค้ชวีณา ทองแถม ณ อยุธยา 4.DIGI CLUB คลาส อาหารตา อาหารใจ กินอย่างไรให้มีความสุข โดยครูป๊อบ อักขราทร ศิลปี 5.DIGI CLUB คลาส บอร์ดเกม ฝึกสมอง โดยกานต์ มานะแก้ว จากสมาคมบอร์ดเกม ฯลฯ โดยการอบรมบ่มเพาะทักษะการผลิตสื่อนั้น ยังมีบัดดี้คนรุ่นใหม่ที่เป็นอาสาสมัคร  เป็นเพื่อนคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอดโครงการฯ  สร้างความเข้าใจเทคโนโลยีและลดช่องว่างระหว่างวัยให้กับสังคม