วันที่ 20 ส.ค. 2567 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังร่วมรับประทานอาหารกับ สส.บางส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีจำนวน 22 คน 

โดยนายไผ่  ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมารับหน้า ก่อนจะกล่าวว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนที่มาให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัส จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยังมีอีกหลายคนที่กำลังเดินทางมา ซึ่งเมื่อคุยกันแล้วได้ข้อสรุปว่า พวกเราทั้งหมดคงต้องร่วมรัฐบาลแน่นอนกับพรรคเพื่อไทย วันนี้อยากให้มองเห็นว่าทุกอย่างที่เราทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติให้ดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะได้มีงบประมาณและนโยบายดีๆ ให้ขับเคลื่อนต่อไป 

เมื่อถามว่า แปลว่าพรรคพลังประชารัฐแบ่งออกเป็นสองส่วนใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ตนว่าไม่ รอคุยกับ ร.อ.ธรรมนัสดีกว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม เราจึงมาให้กำลังใจ ร.อ.ธรรมนัสในวันนี้ ส่วนจะเป็นจำนวนกี่คนนั้น ตนขอบอกว่ามีเยอะกว่านี้ เฉพาะวันนี้ที่มาประมาณ 20 กลางๆ 

เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสจะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่นั้น นายไผ่ กล่าวว่า ตนคิดว่าในวันนี้คนที่จะหลุด ยังไม่หลุด ยืนยันว่า เป็นกลุ่มที่ยืนกันอยู่ตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มที่อยู่บ้านป่าฯ ณ เวลานี้ เป็นกลุ่มนี้ ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ตนไม่ทราบ ตอนนี้เราเป็นรัฐบาล ในการนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร 

เมื่อถามว่า หลังจากนี้กลุ่มนี้จะไม่ร่วมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “ลุงป้อมเป็นผู้ใหญ่ อย่าไปเปิดประเด็น” 

เมื่อถามว่า จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ หรือเข้าร่วมรัฐบาลในนามพรรคอื่น นายไผ่ กล่าวว่า “เขายังให้อยู่หรือเปล่า ผมไม่รู้”

เมื่อถามว่า การตัดสินใจของกลุ่มต่อจากนี้ จะออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายไผ่ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนพูดแทนทุกคนไม่ได้ วันนี้พวกเราเป็นรัฐบาลชัดเจน 

เมื่อถามว่า กรณีที่บอกว่าไม่เป็นธรรมนั้น นายไผ่ กล่าวว่า ตนคิดว่าบางสิ่งบางอย่างออกมาในลักษณะที่ มีคนพูดอะไรออกมาไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้ยิน เราร่วมรบกันมา 6 ปี เราพร้อมทำทุกอย่าง

จากนัันนายไผ่ ได้มอบดอกไม้มอบให้กับ ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ สส. จากทุกภาคเดินทางมาให้กำลังใจ ในการปฎิบัติหน้าที่ และรักษาไว้ซึ่งแนวร่วมทำงานเพื่อชาติบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น ตนเองยังยืนยันในเจตนารมย์ชัดเจนว่า มีจุดยืนของตัวเองในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ขอขอบคุณพี่น้อง สส. จากทุกภาค เรามีความชัดเจนว่า "เรารักกันไปด้วยกัน"

ร.อ.ธรรมมนัส กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้ ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า เราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2561 ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และให้กำลังใจ ซึ่งตนเองได้กราบเรียนไปว่า ตนไม่ได้มีการตั้งป้อมว่าจะทะเลาะกับใคร แต่เรามีจุดยืนเป็นของตัวเอง ตนอยู่กับพรรคมานานที่สุดตั้งแต่พรรคยังเป็นวุ้น และรับใช้ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค ประธานดูแลการเลือกตั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือเมื่อปี  62 จนถึงวันนี้ก็ทำดีที่สุดแล้ว

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการส่งชื่อรัฐมนตรี ว่า เวลานี้ให้รัฐมนตรีรักษาการเป็นผู้ตัดสินใจ และพูดคุยกัน เราไม่ใช่ว่าจะทำอะไร โดยไม่ถามแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เด็ดขาดถือเป็นมารยาท ขอยืนยันว่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นรัฐบาล ซึ่งมี 22 คน และยังมีอีก 7 คนที่จะตามมา และยังมีพรรคเล็กอีก 5 พรรคด้วย

เมื่อถามว่า สส. ที่เข้ามูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ จะไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงตรงนั้น เราจะไม่ก้าวล่วงถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ โดยส่งรายชื่อพรรครัฐบาลในนามกลุ่มของตนเอง เราเป็นพรรคพลังประชารัฐ เป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่มีคนบางกลุ่มต้องการสร้างความแตกแยกให้กับคนในพรรค ซึ่งมี สส. ส่วนใหญ่ มาขอร้องให้ตนพูด พร้อมยืนยันในหลักการที่ตนพูดไปเมื่อช่วงเช้า

ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า อะไรที่พูดไปแล้วขอยืนยันในคำพูดของตนเอง ซึ่งตามกฏหมาย หากยังไม่มีมติขับออกจากพรรค ก็ต้องอยู่ที่เดิม ก็ต้องอยู่อย่างนี้ ส่วนมติในการโหวตนั้น ก็ดูจากมติของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เป็นอย่างไร ซึ่งกรณีของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีรายงานว่าเดินทางเข้ามูลนิธิบ้านป่ารอยต่อนั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ภรรยาของนายสันติ ก็อยู่ตรงนี้ และเอาเป็นว่าพวกเราเป็นแนวร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า ใครจะเป็นคนส่งชื่อรัฐมนตรี ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เวลา 08.30 น. ก็รู้ ซึ่งจะยังคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือไม่นั้น จะต้องให้เกียรติ และเปิดโอกาสให้ผู้นำว่าจะเลือกใคร หรือเอาใครถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นอำนาจของนายกฯ 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้พูดคุยกับทางแกนนำพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ที่ผ่านมาตนเองเป็นผู้ประสานแต่เพียงผู้เดียว ร่วมกับนายสันติ และเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็รู้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าขณะนี้ได้ส่งชื่อไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะชัดเจนในเช้าวันที่ 21 ส.ค. หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประมาณนั้น ส่วนเรื่องพรรคสำรองนั้น ตอนนี้เราก็อยู่อย่างนี้

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ย้ายกลับไปพรรคเพื่อไทยนั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เราจะไปอย่างไร ในเมื่อเขายังไม่ขับออกเลย ซึ่งในกรณีที่เราไม่มีการขับเคลื่อนอะไรในพรรค เราก็จะอยู่กันเป็นกลุ่มแบบนี้ ส่วนจะทำงานในคืบหน้าหรือไม่นั้น งานในสภาก็เป็นงานที่เราไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล และตนเองเชื่อมั่นว่า สส. พรรคพลังประชารัฐหลายท่าน ที่กำลังดูว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าหลายท่านไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน  เพราะเป็นฝ่ายค้านลงพื้นที่เหนื่อย

ส่วนมี สส. ที่อยู่ฝั่งบ้านป่ารอยต่อกี่คน ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า อย่าไปประเมิน เอาเป็นว่าเหมือนภาพในสภา

เมื่อถามว่า แสดงว่าจะมีคนที่สมหวัง และไม่สมหวังใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ประมาณนั้น

เมื่อถามว่า คำว่าตาอยู่เอาไปกินนั้น หมายความว่าอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ก็วันนี้พวกตนมากันเยอะ เกือบทุกจังหวัด และเป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยจะเลือกอีกฝั่งหนึ่ง ถามว่าปลาบินได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่า เป็นไปไม่ได้

ส่วนโอกาสสำหรับการกลับไปร่วมกับ พล.อ.ประวิตร เราขอพูดเฉพาะเรื่องในวันนี้ และพี่น้อง สส. ที่มา ไม่ได้มาแถลงข่าวเพื่อโต้ตอบใครแต่มายืนยันว่า ให้กำลังใจตนเอง และนายอรรถกร 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ได้แจ้งกับใคร ตนคุยกับเลขา ครม. และรักษาการนายกฯ ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวติดตลกด้วยว่า "งวดหน้ามาแน่ 34"

ผู้สื่อข่าวรายงานในส่วน รายชื่อพรรคเล็กที่จะมาร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัสทั้ง 5 พรรค ได้แก่ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรดิ พรรคพลังสังคมใหม่ นายสุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายกฤติทัซ แสงธนโยธิน พรรคใหม่ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล พรรคท้องที่ไทย นายปรีดา บุญเพลิง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน