“วุฒิสภา” ยกให้ “ธนาคารที่ดิน” เป็นหน่วยงานที่ทำประโยชน์ และแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของเกษตรกรไทย คือการไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ชี้ตามภารกิจธนาคารที่ดินที่ดูแลเกษตรกรทั้งประเทศ ควรได้รับงบประมาณปีละหมื่นล้าน

วันนี้ (20 สิงหาคม 2567) การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วุฒิสภา มี นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 411 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา  ช่วงเช้าเป็นการชี้แจงงบประมาณ ในส่วนหน่วยงานที่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) มีนายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันฯ เข้าชี้แจง

นายเศรณี อนิลบล ส.ว.กลุ่ม 6 อาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวหลังรับฟังการชี้แจงในส่วนของธนาคารที่ดิน ว่า ตนเพิ่งรู้จักธนาคารที่ดิน แต่จากที่รับฟังภารกิจ ถือเป็นหน่วยงานที่ทำประโยชน์ให้พี่น้องเกษตรกร เพราะปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของเกษตรกร คือไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ธนาคารที่ดิน ที่ดูแลเกษตรกรทั้งประเทศ แต่ได้งบจัดสรรงบประมาณน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานแก้ปัญหาที่ดินทำกินจองชาวบ้าน ซึ่งกระจัดกระจายอยู่หลายกระทรวง

“ในอนาคตธนาคารที่ดิน กำลังจะจัดตั้งเป็นองค์การมหาชน จึงขอให้บูรณาการกับหน่วยงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งที่อยู่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และที่อยู่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขอให้เชิญหน่วยงานรัฐอื่นมาสนับสนุนภารกิจของท่าน และสำนักงบประมาณ ควรจัดสรรงบประมาณให้กับธนาคารที่ดิน 10,000 ล้านบาท เพราะการแก้ปัญหาที่ดินแก้มาไม่รู้กี่สิบปีไม่เคยทำได้สำเร็จ” นายเศรณี กล่าวและว่า

ธนาคารที่ดิน ซึ่งมีบุคลากรน้อย แต่จากการพิจารณาภารกิจและพันธกิจแล้วถือว่าธนาคารที่ดิน ตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างแท้จริง

นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ส.ว.กลุ่มอิสระ ในฐานะรองเลขานุการคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า มีความเห็นสอดคล้องกับส.ว.เสรณี ที่ภารกิจด้านการป้องกันการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดิน ธนาคารที่ดิน ได้รับงบประมาณ 15.8 ล้านบาท ถือว่าน้อยเกินไปเพราะประเทศไทยมีเกษตรกรที่กำลังจะสูญเสียสิทธิ์จากการจำนอง ขายฝากที่ดิน  มีความเดือดร้อนมาก ธนาคารที่ดิน ควรได้รับการจัดสรรงบประมาณมากกว่านี้

นายอภินันท์ เผือกผ่อง ส.ว.กลุ่มที่ 1 จาก จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ อภิปรายในทำนองเดียวกันโดยสนับสนุนให้เพิ่มงบประมาณแก่ธนาคารที่ดิน เพราะเป็นหน่วยงานที่แก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง

ขณะที่ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ส.ว.กลุ่ม 3 การศึกษา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ อภิปรายว่า จากภารกิจของธนาคารที่ดินส่วนตัวสนับสนุนงานของธนาคารที่ดิน และเสนอให้เช่าที่ดินเอกชนมาให้ประชาชนเช่าต่อ ส่วนจะเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ให้ขึ้นอยู่กับการกำหนดที่เหมาะสม

ด้านนายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันฯ กล่าวขอบคุณ ส.ว.ที่เข้าใจภารกิจของธนาคารที่ดิน และสนับสนุนให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนที่จะสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ซึ่งปัจจุบันมีพี่น้องประชาชน เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินทั่วประเทศ มีจำนวนมาก

”ปัจจุบันธนาคารที่ดิน มีพื้นที่ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดิน ด้านการกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน ซึ่งสำเร็จเป็นรูปธรรม ตอบโจทย์ตามนโยบายรัฐบาล คือ เกษตรกร มีที่ดินทำกิน มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยธนาคารที่ดิน จะใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด“ นายกุลพัชร กล่าว