วันที่ 13 ส.ค.2567 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนว่า ไม่มีเรื่องนี้ แม้แต่นพ.ชลน่านเอง ก็ไม่เคยมาทวง มีแต่มาให้กำลังใจ และพูดว่า "ไม่เคยคิดจะมาดำรงตำแหน่งนี้ และส่วนตัวไม่เคยมีสัญญาอะไรกับใคร เพราะตนมาจาก สส.เลือกกันมา โดยที่ไม่มีใครเสนอแข่ง ได้รับการเลือกเข้ามาคนเดียว และไม่รู้ว่าจะไปสัญญาทำไม เพราะมันเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ และตอนนี้ตน ยังแข็งแรง ปกติ ทำงานไหว ตราบใดที่ยังทำงานได้ ก็ยังทำงานปกติ ถ้าทำงานไม่ไหวค่อยว่ากันอีกที สิ่งสำคัญคือตนไม่อยากให้ฝ่ายบริหารมาสั่งการหรือมากำหนดฝ่ายนิติบัญญัติ ตนไม่อยากให้เป็นเช่นนี้"
"หากผมจะพ้นจากตำแหน่ง ต้องไม่ใช่เพราะฝ่ายบริหารมากำหนด เนื่องจากเป็นคนละฝ่ายกันแล้ว ต้องแยกกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และเราเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยอะไรออกมา เราก็เคารพ แม้จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็อยากให้อิสระ อย่างฝ่ายบริหารจะ ปรับ ครม.กี่ครั้ง จะปรับอย่างไร ก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เราก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร แต่ถ้าฝ่ายบริหารอยากมาปรับในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ เว้นแต่ว่าจะส่งคนมาแข่งชิงตำแหน่ง ก็มาว่ากันในสภา ในส่วนของตนเลือกกันไปแล้วถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเป็นเคสที่ลาออกหรือถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ยังทำหน้าที่ต่อ" ประธานสภาฯ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า ครั้งแรกที่ตนดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ตอนนั้นลาออกก่อน เพราะไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค เนื่องจากตอนนั้นพรรคความหวังใหม่มีปัญหา มีคนลาออกจำนวนมาก หัวหน้าพรรคจึงขอร้อง เพื่อต้องการรักษาให้พรรคยังคงอยู่ ซึ่งตอนนั้นแม้เป็นเลขาก็ไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ตนเห็นว่าตำแหน่งนี้ต้องเข้าประชุมพรรค กำหนดตัวผู้อภิปราย และจะมานั่งเป็นประธานคงไม่ได้ และเห็นว่าเหลือเวลาไม่ถึงปีจึงตัดสินใจลาออกไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องตำแหน่งไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือทำหน้าที่ได้ตามกฎหมายและข้อบังคับหรือไม่ หากทำหน้าที่ได้ ก็ทำต่อไป แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องให้คนอื่นมาทำ ขออย่าไปยึดมั่นถือมั่น ส่วนครั้งนี้ ก็ยังไม่มีเหตุอะไร ตนก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป หากมีเหตุอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด