“นายกฯอิ๊งค์” ย้ำยังไม่คิดปรับ ครม. พร้อมยกคำสอน “ทุกอย่างล้วนอนิจจัง” ยันไม่มีแผนดึง “พลังประชารัฐ” เสียบแทน “ภูมิใจไทย” ด้าน “ภูมิธรรม” ชี้ข่าวปรับ ครม. ลอยมาไร้ปี่ขลุ่ยยันสัมพันธ์ “พท.-ภท.” ยังแน่นปึ้ก! “อนุทิน” ร้องโอ้ย! ลาประชุมครม.ถูกโยงเกาเหลาพรรคร่วม ลามสะพัด “ปรับครม.” ยึดเก้าอี้ “มท.1” บอกเป็นอำนาจ “นายกฯ” ไม่ต้องถามใคร “บิ๊กอ้วน” สั่ง สส.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจปชช. “กม.คาสิโน” ครม. มีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชัย สัจจพงษ์ นั่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ความจริงตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และทราบมาว่ามีเรื่องของผลโพลที่ทุกคนให้ความสนใจ ความจริงแล้วตนพร้อมรับฟังทุกความเห็นไม่ว่าจะเป็นผลโพลหรือความเห็นของประชาชนจะนำไปคิด
"ความจริงแล้วใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่ว่าตำแหน่งทุกอย่างหรือแม้แต่ตำแหน่งของนายกฯก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่งของใครคนใดคนหนึ่ง ตำแหน่งของนายกฯก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราก็ทำใจให้นิ่งไว้" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าที่บอกให้ทำใจให้นิ่ง เป็นการสื่อสารไปยังรัฐมนตรีทุกคนใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ไม่ค่ะ ทุกๆคนบอกว่าทุกๆอย่างเราต้องใจนิ่งๆไว้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะปรับอะไร แต่พอรับฟังความคิดเห็นก็ต้องมาดูว่าอย่างไรบ้าง เพราะความจริงแล้วตนชอบทำงานเป็นทีม ชอบทำงานในแบบที่ทำงานด้วยกันไม่ต้องสู่กันไม่ต้องไฟต์กันในแต่ละกระทรวง ความจริงไม่ชอบความแตกสามัคคี แต่ก็ทำดีที่สุดแล้วดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าสุมมุตว่าเกิดอะไรขึ้นมาเราไปปรับแก้ตอนนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร
เมื่อถามว่าการทำงานของครม.ชุดนี้ที่ผ่านมาในเรื่องความสามัคคีเป็นอย่างที่หวังไว้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถือว่ามีความสามัคคี เมื่อมอบนโยบายใดๆ ทุกคนก็พยายามทำเต็มที่และเกิดขึ้นจริง แต่ก็เข้าใจหลายๆกระทรวงที่บางทีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดไว้ บางนโยบายหรือบางอย่างอาจขลุกขลักบ้างอันนี้เข้าใจได้
เมื่อถามถึงกรณีมีการวิเคราะห์กันว่าจะปรับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกแล้วนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ามาแทน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "อะไรนะเอาพรรคภูมิใจไทยออก เอาพลังประชารัฐเข้าแทน หืมอันนี้โอโห คำถามนี้แรง ยังไม่มีอย่างนั้นนะคะ ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเดิมอยู่"
เมื่อถามอีกว่าในอนาคตมีทางนำพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาได้หรือไม่ เพราะตอนหาเสียงเคยบอกว่าให้ดูหน้าดิฉัน จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ใช่ค่ะที่บอกว่าดูหน้าดิฉันไว้จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร อันนี้คือ 2 ปีที่แล้ว เผอิญคะแนนมันไม่ถึงก็เลยต้องจับกันหน่อย และจับมาสักพักแล้วเหมือนกันทำไมคำถามนี้ดีเลย์จัง"
เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นเหมือนในปัจจุบันจนจบรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น จะมีอะไรอีกหรือไม่เล่าให้ฟังหน่อยบ้างสิ ดูดวงให้หน่อย
เมื่อถามว่าผลโพลบอกให้ปรับในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเสียงสะท้อนของคนในพรรค เราจะปรับยุทธศาสตร์หรือปรับตัวรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ตกผลึกทุกอย่างเหมือนเดิมขอตอบตามนี้ แต่เรารับฟังทุกความคิดเห็น
เมื่อถามว่าเหมือนความคิดเห็นของ น.ส.แพทอธาร จะเห็นแย้งกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่มีท่าทีเหมือนอยากให้ปรับคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารจึงถามกลับว่า "เอ๊ะ คุณพ่อให้สัมภาษณ์อยากให้ปรับครม.หรือ"
ผู้สื่อข่าวตอบกลับไปว่า "ไม่ได้ให้สัมภาษณ์" ก่อนถามอีกว่า แต่ดูเหมือน น.ส.แพทองธาร จะไม่ยอมเรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า มันไม่ไปถึงจุดที่ไม่ยอมหรอก เห็นต่างมีหรือไม่มี ตัวดิฉันและคุณพ่อมีความเห็นต่างตลอด แต่เห็นด้วยกันก็เยอะ แต่ไม่ไปถึงจุดที่มีปัญหากันแน่นอน
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี หากนายกฯ เห็นว่ารัฐมนตรีกระทรวงใดมีความไม่เหมาะสม ก็เป็นสิทธิของนายกฯที่จะปรับ หากเป็นโควต้าไหนกระทรวงใด และอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดก็ต้องเคลียร์กับพรรคนั้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครได้สัญญาณอะไรจากนายกฯว่าจะปรับครม. เป็นเรื่องพูดกันแต่คนวงนอกเป็นส่วนใหญ่ ตนรู้สึกว่าอยู่ดีๆเรื่องนี้ก็ลอยขึ้นมาเป็นประเด็น โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดังนั้น เรื่องนี้ต้องถามนายกฯเอง
ส่วนความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า แต่ละพรรคก็มีเรื่องภายในของตัวเองที่ต้องไปเคลียร์ แต่สำหรับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีประเด็นอะไรขัดแย้งกัน แต่อาจมีเห็นต่างกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ทั้งหมดต้องอาศัยหลักการและความถูกต้อง และสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ถ้ามีความไม่เข้าใจมองเป็นเรื่องกาสิโน ซึ่งนโยบายไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะช่วยแก้ปัญหาหลายๆอย่าง และกระตุ้นเศรษฐกิจ กาสิโนเป็นส่วนเล็กนิดเดียว จึงไม่อยากให้ถามแต่เรื่องกาสิโน และควรจะต้องพูดแต่ความเป็นจริง และพรรคการเมืองที่ไม่เข้าใจก็ควรมาคุยกันตามครรลองประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาชาติเข้าใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คิดว่าเข้าใจ แต่ก็มีเงื่อนไขหลายๆอย่าง ก็เป็นการดำเนินการกัน แต่ครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ทุกคนก็ยอมรับว่าเป็นนโยบายรัฐบาล แม้กระทั่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามย้ำว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจย่อมหมายถึง สส.ที่สังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ก็เข้าใจด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมองว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยยังเดินกันต่อไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็อยู่ที่พรรคภูมิใจไทย และอยู่ที่ภายในของพรรคเพื่อไทย แต่ละพรรคต้องไปทำความเข้าใจของตัวเอง ทำความเข้าใจได้ ยอมรับหลักการได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็เดินต่อไปได้”
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ผมเหมือนเดิม แต่ว่าฝ่ายภูมิใจไทยก็ต้องไปถามในพรรคเขาเอง” นายภูมิธรรม ระบุ
ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุ ต้องใช้แรงเยอะ ในการเขย่าเก้าอี้ มท.1 ข่าวออกไปเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า “ไม่มี ไม่มี ”
เมื่อถามถึง การลาประชุม ครม. ในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เพราะต้องเป็นประธานในพิธีพระราชทาน พระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร โดยมอบกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เวลา 10.00 น.
เมื่อถามย้ำว่า การลา ครม. มีการนำไปโยงว่า เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ร้องโอ้ย ก่อนจะกล่าวว่า พิธีนี้สำคัญ เพราะต้องนำต้นศรีมหาโพธิ ไปปลูก ในทุกจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าที่พรรคภูมิใจไทยจะถูกปรับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นมีชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำชับในวงประชุมให้เขี่ยพรรคภูมิใจไทยออก ว่า การพูดถึงคนที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ไม่แฟร์สำหรับเขา รายการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องไปคุยไปถามหรือฟังใครทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดกระแสข่าวก็ได้พูดคุยกับ นายกรัฐมนตรี ตลอดแต่เป็นเรื่องของการทำงาน
เมื่อถามว่าข่าวจึงถามย้ำว่านายกฯได้ให้ความมั่นใจ ว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายอนุทิน ย้อนกลับว่า ถ้าท่านไม่ให้ความมั่นใจ ตนคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ ก่อนจะตัดบทให้ผู้สื่อข่าวถามอะไรที่เป็นประโยชน์ เช่น การช่วยเหลือชาวบ้าน รัฐบาลพยายามทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชน มีอะไรตั้งเยอะแยะให้ถาม ทั้งการช่วยเหลือภัยพิบัติ แผ่นดินไหว เยอะแยะไปหมดไม่ถามถามแต่เรื่องไม่เป็นสับปะรด ประเด็นที่มันเกิดขึ้นก็พวกคุณตั้งมาทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจในความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับอาหนู หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาทำงานมีแต่คำว่าท่านนายกฯ กับรัฐมนตรีมหาดไทย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีสูตรใหม่ดึงพรรคพลังประชารัฐเข้ามาร่วม และเอาพรรคภูมิใจไทยออกเป็นไปได้หรือไม่นั้น " นี่รัฐบาลนะ การทำอะไรต้องมีหลักการ มีความมั่นคง อย่าไปคิดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน " นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่ปล่อยออกมากวนใจนายอนุทินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นักข่าวนั่นแหละกวนใจ โทรมาเต็มไปหมด
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยจะไปรวมกับพรรคประชาชน จับมือกันเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ปรับคณะรัฐมนตรียังไม่ได้ปรับเลย พรรคภูมิใจไทยจะไปเป็นฝ่ายค้านได้อย่างไร ธรรมดาการเมืองสมัยก่อน มีหัวหน้าพรรคเยอะ เขาก็คิดว่าจะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกันมีอะไรก็ไปเขย่าตำแหน่ง แต่ตอนนี้ตำแหน่งนายกฯมีความมั่นคงและแข็งแรง ไม่มีคนคิดจะแข่งหรือคิดไม่ดีกับท่าน จะเอาท่านลงมาจากตำแหน่ง ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครคิดเลย ทีนี้ก็เลยมาแกล้งตนแล้ว แค่นั้นเองไม่มีอะไร
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยกำชับส.ส. ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจประชาชน เกี่ยวกับ ร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชน และเรื่องพ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม เป็นเพราะหวั่นจะมีม็อบใช่หรือไม่ ว่าการลงพื้นที่ไม่ใช่ลงไปเนื่องจากกลัวประเด็นดังกล่าวจะเป็นการจุดกำเนิดม็อบ แต่เป็นปกติช่วงปิดสมัยประชุมเราก็จะให้สส.ลงพื้นที่พบประชาชนมีกฎหมายอะไรที่ค้างในสภาฯหรือมีปัญหา ยังไม่มีความเข้าใจจะได้ชี้แจง ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับจ่ออยู่ในสภาฯ เมื่อจะนำมาพิจารณาก็ควรชี้แจง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลจะเป็นการจุดม็อบ
เมื่อถามว่ายังมีความกังวลต่อร่างกฎหมายทั้งสองฉบับหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่ได้กังวลเราคิดว่ามีเหตุมีผล เรื่องนี้รัฐบาลทำตามกรอบ เป็นนโยบายที่รัฐบาลผลักดันก็สมควรที่พรรคการเมืองจะนำประเด็นในสภาฯไปพูดคุยกับประชาชน ทำความเข้าใจให้ชัดเจนและเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีความขัดแย้งเนื่องจากเป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และยืนยันกาสิโนเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว แต่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกฎหมายกาสิโนซึ่งมันไม่ใช่ เราอยากทำความเข้าใจกับนักการเมืองสส. พรรคร่วมรัฐบาลหรือแม้แต่ฝ่ายค้านให้เข้าใจประเด็นนี้อย่างถ่องแท้ ในแง่ของพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องเข้าใจต้องเคลียร์กัน เมื่อถามว่าเรื่องนี้เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯจะราบรื่นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าอยู่ที่ความเข้าใจของประชาชนและพรรคการเมืองต่างๆ
ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่แทนที่ นายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระการรักษาการลงเมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 ที่ผ่านมา โดยจะมีผลทันทีหลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง