FLOYD ผู้นำด้านการให้บริการงานระบบวิศวกรรมครบวงจร รายงานงบ ไตรมาส 2/67 โตต่อเนื่อง กวาดรายได้จากการให้บริการกว่า 121 ล้านบาท เติบโตถึง 69% จากความคืบหน้าโครงการในมือ หนุนกำไรสุทธิอยู่ที่เกือบ 10 ล้านบาท พุ่งแรง 3,332% ฟื้นตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ สนับสนุนให้ผลงานงวดครึ่งปี ทำรายได้กว่า 204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.60 ล้านบาท ปรับตัวลดลง แต่ถึงอย่างไร บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นได้ดี สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม โดยปัจจุบันตุน Backlog ในมือรอรับรู้รายได้กว่า 941.22 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายรายได้ปี 67 ที่วางไว้ 600 ล้านบาท
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยว่า บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้นำด้านการให้บริการงานระบบวิศวกรรมครบวงจร ประกาศผลประกอบการรายได้จากการให้บริการ 121.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 0.28 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 3,332.14% ฟื้นตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ สนับสนุนให้ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้จากการให้บริการ 204.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.26% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.60 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 16.39 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากความคืบหน้าของโครงการในกลุ่มสำนักงานและอาคารพักอาศัยที่ต่อเนื่องจากปีก่อน รวมถึงความคืบหน้าของโครงการในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ที่เริ่มดำเนินการในไตรมาสนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการเป็น 1 ใน 5 ผู้ให้บริการวิศวกรรมด้วยคุณภาพ ปลอดภัย และเติบโตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทใน งวด 6 เดือนแรกของปีปรับลดลง สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่สอดคล้องกับการขยายตัวของรายได้ โดยเฉพาะต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัจจัยการผลิตต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ค่าไฟฟ้า เหล็ก และทองแดง มีราคาปรับสูงขึ้น แต่บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นได้ดีสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม
“ผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ของบริษัท เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพในการให้บริการและขยายฐานลูกค้า เพื่อเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้านอกจากนี้ ผลประกอบการในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการมอบบริการที่มีคุณภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้า รวมถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น” นายทศพรกล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นได้ดี ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่เข้มงวด และการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม แม้ว่ากำไรสุทธิในไตรมาสนี้จะลดลง แต่เรายังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัทในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่เรามีโครงการในมือ (Backlog) จากลูกค้าที่มีศักยภาพ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 941.22 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการประมูลอีกหลายโครงการ ซึ่งคาดว่าจะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง ภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะรับมือกับโอกาสที่เกิดขึ้น และเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง FLOYD ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการงานระบบวิศวกรรมครบวงจร พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก 3-4 โครงการ อาทิ กลุ่มห้างค้าปลีก อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และอาคารพักอาศัย โดยล่าสุดบริษัทฯ สามารถคว้างานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร จากโฮมโปร สาขา ภูเก็ต (เชิงทะเล) และ โครงการ ลากูน่า สกายพาร์ค เฟส 2 จังหวัดภูเก็ตมาได้ จึงเป็นการส่งสัญญาณว่าภาพรวมเศรษฐกิจการลงทุนกำลังปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว ส่งให้แนวโน้มครึ่งปีหลังทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้างและภาคอสังหาฯจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับการแข่งขันการขยายสาขา ของกลุ่มห้างโมเดิร์นเทรด ที่มีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทฯ ในการขยายโอกาสในการได้รับงานในครึ่งปีหลัง พร้อมเดินหน้าธุรกิจตามวิศัยทัศน์ สู่ผู้นำด้านวิศวกรรม พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สนับสนุนให้รายได้ปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้