เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 ส.ค. 67 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล  โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค (ภท.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วมประชุม

 

จากนั้นเวลา 18.20 น. นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมวันนี้ ไม่ได้หาเรื่อง ร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … แต่เป็นการหารือร่วมกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จากกรณีพรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ซึ่งเป็นการหารือใน 2 เรื่องคือ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 โดยพรรคที่ได้เป็นอันดับ 2 คือพรรคพลังประชารัฐ อันดับที่ 3 คือพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาล มีแนวโน้มจะส่งเพียงพรรคเดียว ที่ประชุมจึงเห็นว่าให้ทั้ง 2 พรรคไปตกลงกัน 

 

2.เรื่องรองประธานสภา ที่ปกติพรรคหลักจะได้ตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภาคนหนึ่ง พรรคอันดับ 2 เป็นรองคนที่สอง แต่เนื่องจากการตั้งประธานสภาครั้งนี้ตั้งก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง จึงได้ถามพรรคภูมิใจไทยมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยระบุว่า อยากขอ 1 ที่นั่ง จะเป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง หรือรองประธานสภาคนที่สองก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการหารือกันภายใน ที่ประชุมวันนี้จึงให้ 2 พรรคไปคุยกัน โดยจะให้ได้บทสรุปก่อนวันที่ 14 ส.ค. 

 

เมื่อถามว่า เมื่อให้ 2 พรรคไปคุยกันในเรื่องการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดพิษณุโลก จะเป็นการฮั้วกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีการฮั้วกัน เพียงแต่ว่าใครมีโอกาส พรรคอื่นก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ จึงให้พรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ว่ากันไป 

 

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมไม่มีการหารือเรื่อง

เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ใช่หรือไม่ 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำเดือนที่ใครอยากเอาอะไรมาพูดก็ได้ เมื่อหารือใน 2 เรื่องจบ ก็ไม่มีการหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมา ซึ่งประเด็นที่สื่อคาดการณ์นั้นไม่ได้มีการกำหนดวาระในที่ประชุม และตนเป็นคนเรียกประชุม แต่เป็นสื่อที่คาดการณ์กันเอง

 

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง หากเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องนำเข้าที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนส่งเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลรับเข้ากระบวนการแล้ว และอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งให้กฤษฎีกาและนำเข้าสู่ครม. หากตกลงอย่างไร จึงส่งให้สภาสภาพิจารณา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการตกลงกันในพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว  ส่วนจำเป็นจะต้องคุยในที่ประชุมพรรคร่วมก่อนหรือไม่นั้น อาจจะต้องคุยกันอีกครั้งต้องไปตามกระบวนการ

 

เมื่อถามย้ำว่า โดยรวมพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เมื่อที่ประชุม ครม. เคยผ่านมาแล้วก็เห็นไปตามนั้น 

 

เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำประชาพิจารณ์ไม่เพียงพอ จะต้องทำประชามติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรายังไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้ที่เราไม่ได้หยิบมาคุยกัน เพราะมันผ่าน ครม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว