“สก.เขตบางซื่อ” เร่งรัดสำนักงานเขตบางซื่อ ติดตามความคืบหน้าแนวทางลงมติของ “กรมการขนส่งทางบก” กรณีประชาชนลงชื่อคัดค้านการย้ายศาลารอรถเมล์หน้าหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อ             

จากกรณีที่ชาวบ้านพิบูลย์ บางซื่อ ถนนพิบูลย์สงคราม เขตบางซื่อ แจ้งร้องทุกข์ผ่านสำนักจราจรขนส่ง จากการ ย้ายป้ายหยุดรถโดยสาร และศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณหน้าหมู่บ้านพิบูลย์ บางซื่อ ทำให้ประชาชน ผู้ใช้รถ หรือสร้าง หรือเป็นประจำ ได้รับความ เดือดร้อน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง ในการสัญจรไปมา ในการทำงานในแต่ละวัน ซึ่งป้าย และศาลที่พักผู้โดยสารนั้นมีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ และอำนวยความสะดวกต่อประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่สัญจรไปมา กระทั่งชาวหมู่บ้านพิบูลย์ บางซื่อ นอกจากนี้ยังได้ประสานขอความช่วยเหลือจากส.ส.และสก.ในพื้นที่ โดยได้มีการนัดหมายตัวแทนหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงไปดูพื้นที่ผ่านนายบรรหารเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกที่อ้างว่าการย้ายป้ายและศาลาที่พักดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการฯ

ล่าสุด วันที่ 11 ส.ค.67 นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวความคืบหน้ากรณีประชาชนลงชื่อคัดค้านการย้ายศาลารอรถเมล์หน้าหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อ ว่า ในฐานะ ส.ก.ในพื้นที่ ได้เร่งรัดสำนักงานเขตบางซื่อเพื่อติดตามความคืบหน้าแนวทางลงมติของกรมการขนส่งทางบก เพื่อเปลี่ยนจุดรอเมล์กลับมาที่เดิมตามผลประชาพิจารณ์ของคนในชุมชนกว่า 300 รายชื่อ โดยเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ติดตั้งศาลารอรถเมล์ไม่ตรงจุดตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ใช้งานศาลารอรถเมล์จนเกิดความเคยชินกว่า 40 ปี เมื่อมีการย้ายศาลารอรถเมล์เกิดขึ้นโดยไม่แจ้งให้คนในพื้นที่ทราบ ทำให้มีผลกระทบต่อความรู้สึกและความเคยชินของคนในพื้นที่ จึงเกิดการรวมตัวคัดค้านการย้ายศาลารอรถเมล์ดังกล่าวขึ้น

นางสาวภัทราภรณ์ กล่าวว่า หากเจ้าของพื้นที่แจ้งให้ชาวบ้านทราบ และเจรจาตามเหตุผลในการย้ายศาลารอรถเมล์โดยสันติ รวมถึงดำเนินการตามขั้นตอนของ สจส.ตั้งแต่แรก กรณีคัดค้านคงไม่เกิด เพราะป้ายรถเมล์จุดใหม่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 30 เมตรเท่านั้น มีความปลอดภัย สามารถมองเห็นรถเมล์ได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ ส่วนการยื่นผลประชาพิจารณ์ของเขตบางซื่อนั้น จุดประสงค์เพื่อหาทางออก โดยให้กรมการขนส่งทางบกเปลี่ยนจุดรอรถเมล์ให้ตรงตามผลประชาพิจารณ์ของคนในพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันปัญหาภายหลัง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งรัดให้สำนักงานเขตบางซื่อติดตามคำตอบจากกรมการขนส่งทางบกอย่างใกล้ชิด