เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม 2567 พ.ต.ต.วุฒิวรพงษ์ แหวนประดับ สวป.สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งอาละวาด เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งอำเมืองปทุมธานี เลขที่ 145/36 ซ.13 หมู่ 10 ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และ ตำรวจสืบสวน พร้อมอุปกรณ์ไม้ง่าม กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุบริเวณพื้นบ้านพบหยดเลือด เป็นทางยาว และ มีญาติใกล้ชิดเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธมีด แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมหยุด ยังจะ พูดจา เอะอะโวยวายอยู่ในบ้าน ตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ พบผู้ได้รับบาดเจ็บหญิง 1 รายซึ่งเป็นแม่ผู้ที่คลุ้มคลั่ง โดยมีบาดแผลที่บริเวณ มือซ้าย และ ขมับขวา มีแผลลึก เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งลงโรงพยาบาลกรุงไทยปทุมธานี เพื่อทำการรักษา เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงเศษ ชายคลั่งก็ยังไม่ยอมวางอาวุธและไม่ยอมเจรจาและมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ใช้เวลาเกลี่ยกล่อมอยู่นานนับชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะสงบ สถานการณ์ยิ่งบานปลาย ซึ่งผู้ที่คลุ้มคลั่งได้ล็อคประตูบ้านไว้โดยมีอาวุธมีดแบบหัวตัดความยาวประมาณ 1 ฟุต เป็นอาวุธที่ก่อเหตุทำลายแม่จนได้รับบาดเจ็บ และได้โยนมีดทิ้ง ในภายหลัง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ ได้ร้องขออุปกรณ์เพื่อตัดประตูเข้าไป และได้บุกเข้าบ้านใช้อุปกรณ์ตัดกุญแจ เพื่อพังประตูเข้าไป แล้วชายคุ้ม คลั่งดังกล่าวได้วิ่งขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 และได้ลงมาชั้นล่าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พังประตูเข้าไป ซึ่งในขณะนั้นก็ยังเกลี้ยกล่อมและได้บุกชาร์จจนสำเร็จ หลังจากที่นำชายออกมาจากบ้าน ชายคนดังกล่าวสามารถควบคุมสติอารมณ์ได้แต่ยังอะโวยวายคล้ายกับคนเสพสารเสพติด ทราบชื่อ นายแบงค์ อายุประมาณ 35 ปี
จากการสอบถาม นายแบงค์ ในขณะคุมตัวเล่าว่า เพราะแม่ให้ผมกินแต่ขี้แต่เยี่ยว ส่วนเงินแม่ก็ให้เงิน นิดหน่อย ผมไม่ต้องการอะไรมากนอกจากให้เอาขี้ ออกจากปากผม และเอาวิญญาณออกจากตัวผม ไป ซึ่งจากการสอบถามก็ยังพูดวกไปวนมา กับการทำร้ายแม่ในครั้งนี้ตนเองทำเป็นครั้งแรกในมิตินี้ผมไม่อยากได้อะไรเลย ใครอยากได้ก็เอาไป ซึ่งในที่พูดผู้สื่อข่าวก็ยังจับใจความยังไม่ได้ ว่าพูดอะไร
ด้าน น.ส.ปทิดากันย์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องที่มาเกลี้ยกล่อม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คนที่คุ้มคลั่งเคยมีประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เขาเป็นคนเก็บตัว แต่ก่อนก็เขาเคยทำงานที่โรงงานแล้วก็ออกมา ส่วนเสพติดเคยเสพยาเสพติดมาก่อน พอไม่อยู่บ้านเขาก็เป็นคนเงียบๆไม่พูดไม่จากับใคร แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทำรุนแรงควบคุมและไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ โล่งอกที่สามารถควบคุมเอาไว้ได้
ด้าน พ.ต.ต. วุฒิวรพงษ์ แหวนประดับ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นสืบทราบมาว่าชายคนคลุ้มคลั่ง นั้นเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญาแต่ในการปฏิบัติในครั้งนี้ ต้องเซฟเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก เบื้องต้นทางเจ้าหน้า นำชายคลั่งดังกล่าว นำส่ง สภ.เมืองปทุมธานี ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ส่วนในเรื่องคดีนั้นต้องรอให้ทางญาติแจ้งมาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวและเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล