วันที่ 6 ส.ค.67 กัน จอมพลัง ช่วยหญิงที่เดินทางมาจากจังหวัดนราธิวาส หลังสามีพยายามฆ่าลูกทั้งสองคน บังคับให้ภรรยากลับไปคืนดีด้วย ยังไม่พอมีการถ่ายคลิปตอนที่น้องทรมาน ส่งให้ทางญาติของฝ่ายหญิงดู เกิดเหตุที่หอพัก แห่งหนึ่งย่านอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่สี่สิงหาคมที่ผ่านมา ภายในห้องเลขที่ 18/176 สูง 4 ชั้นห้องที่เกิดเหตุเลขที่ 402 พบชาย 1 รายทราบชื่อนายสมยศ อายุ 36 ปี นอนอยู่ในห้องน้ำส่วนเด็กชายฟีโน่ อายุ 7 ขวบ มีสติดีเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และเด็กหญิงชนัญชิดา อายุ 9 ขวบ หมดสติเจ้าหน้าที่นำลงมาด้านล่างและส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียตริ ส่วนพ่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลภัทรธนบุรี ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน ภายในห้องพบน้ำอัดลมสีแดงวางอยู่กลางห้อง ข้าวของกระจัดกระจายและซองยาฆ่าแมลง 97% ถูกฉีกที่ปากซองแล้ววางอยู่ 1 ซอง
นางสาวเอ นามสมมุติ อายุ 26 ปี แม่ของเด็กและอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ตนเองได้คบหากับสามี มาร่วม 10 ปี แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือแต่งงานกัน แรกๆที่คบหากันเป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่ สามีไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่จะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ โมโหร้าย ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อยมา ตนเองมีลูกกับสามี 2 คน ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน พักหลังสามีเริ่มมีอาการหึงหวงตน ทำร้ายร่างกายตนเอง ถึงขั้นปางตาย แต่ตนไม่ได้แจ้งความไว้ และยังทำร้ายกายแม่ของตนด้วย จนพักหลังสามีไม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่จะติดเกมส์ คอมพิวเตอร์ และขอเงินตนเองใช้ ซึ่งทำให้สถานะการเงินแย่ลง เนื่องจากตนเองต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ ซึ่งตนขอให้แม่เป็นคนเลี้ยงลูก โดยสามีบอกว่าจะเป็นคนเอาลูกทั้งสองคนไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าเขาเป็นพ่อ เอาลูกไปเลี้ยงเองดีกว่า ซึ่งตนเองจึงยอมแยกกันอยู่ ซึ่งแยกกันได้ 3 เดือน สามีของตนพยายามตามง้อขอคืนดีด้วย โดยสามีจะวิดีโอคอลมาขอคืนดีบ่อยครั้ง พอตนเองไม่ยอม ก็ขู่ว่าจะทำร้ายลูก ขู่จะฆ่าตัวตายและจะฆ่าลูกด้วย และยังเคยวีดีโอคอลมาให้ตนเองดู โดยขณะที่กำลังพาเด็กๆไปกระโดดสะพาน พระราม 9 และสามียังเคยสั่งยาไซยาไนท์จากออนไลน์ มาผสมน้ำอัดลมให้ลูกกินแต่โชคดี เป็นไซยาไนท์ปลอม ลูกๆจึงรอดตายปาฎิหารย์
ล่าสุดสามียังไม่ลดความพยายาม ได้ซื้อยาฆ่าแมลงมาผสมกับอาหารและน้ำอัดลมบังคับให้กิน แต่เด็กไม่กิน เลยจับเด็กบีบคอเหวี่ยงฟาดไปมา เอาผ้าปูที่นอนพันน้องเหลือแต่หัวแล้วจับกรอกปาก จนลูกๆทั้งสองคนดิ้นทุรนทุราย อาเจียน หมดสติ นอนหายใจรวยริน หลังก่อเหตุสามีได้มีการวีดีโอคอลไปหาพ่อของตน (คุณตาของลูก) แล้วบอกว่าเด็กๆเสียชีวิตแล้ว ยังไม่พอมีการถ่ายคลิปตอนที่น้องทรมาน ส่งมาให้ครอบครัวของตนดู ตนเองทนไม่ไหวพยายามบอกกับสามีว่า "ถ้าอยากตาย ก็ตายไปคนเดียว" อย่าเอาลูกไปเกี่ยวข้องด้วย แต่สามีก็ไม่ยอมทุกครั้งที่ตนเองตามไปเพื่อที่จะเอาลูกคืน แต่สามีก็จะพาลูกหลบหนี ไปนอนโรงแรมบ้าง หนีไปอยู่ที่อื่นบ้าง ทำให้ตนไม่สามารถตามตัวลูกได้ตอนนี้ น้องผู้หญิงอยู่ห้อง ไอซียู น้องผู้ชายวันนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เชื่อว่าสามีไม่ต้องการจะฆ่าตัวตายเพราะกินยาฆ่าแมลงแค่เพียงไม่มาก แต่ทำไปเพื่อต้องการเอาชนะและประชดตัวเองเพียงเท่านั้น ซึ่งไม่ได้คำนึงและสงสารลูกเลยแต่อย่างใด ตนเองเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมากทนพฤติกรรมของสามีไม่ไหว และยังกังวลเรื่องคดีกลัวผู้ก่อเหตุจะไม่ได้รับโทษ เพราะอ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำ ผสมไว้จริง แต่เด็กหยิบทานเอง วันนี้จึงเดินทางจากนราธิวาสขอร้องให้ คุณกัน จอมพลังช่วยเหลือ
หญิงสาวผู้เป็นแม่ เดินทางมาจากนราธิวาส ร้องขอให้ตนช่วยเหลือเนื่องจาก เป็นเรื่องทะเทือนขวัญ โดยสามีบีบบังคับให้ภรรยากลับไปคืนดีด้วย โดยการเอาลูกเป็นตัวประกัน ทรมานลูก เคยพาลูกไปสะพานพระราม 9 เพื่อขู่ภรรยาให้กลับมาคืนดี หากไม่กลับมาคืนดีจะพาลูกๆกระโดนสะพานฆ่าตัวตายและยังสั่งยาไซยาไนท์จากอินเตอร์เน็ตแล้วให้ลูกกิน โดยน้องดิ้นทุรนทุรายซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม พัฒนาสังคม เข้าไปให้ความช่วยเหลือไว้ทันท้วงที เด็กๆจึงรอดตายปาฎิหารย์ ตอนนี้เด็กทั้งสองคนอยู่โรงพยาบาลจริงๆแล้วเคสนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและพัฒนาสังคมได้ให้ความช่วยเหลือไว้แล้ว แต่ทางครอบครัวเป็นกังวลใจทางเรื่องของคดีความเพราะผู้เป็นพ่ออ้างว่า เด็กๆ หยิบน้ำมาดื่มเอง และยังข่มขู่ภรรยาว่า ถ้าจะให้เลิกกัน คือต้องตายเท่านั้น ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งตาย ถึงจะเลิกกันได้ และทางภรรยายังกลัวว่า หากสามีได้รับโทษแล้ว ถ้าออกมาจากคุกจะกลับมาทำร้ายหรือฆ่าภรรยาอีก ตนจึงเข้ามาให้ความช่วยเหลือซึ่งตนเองได้ประสาน พัฒนาสังคม พร้อมกับทาง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เพื่อช่วยเหลือเด็กต่อไปต่อมาทางกัน จอมพลัง พร้อมผู้เสียหาย ได้เข้าไปพูดคุยกับ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง และพัฒนาสังคม
ด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ทางด้านของคดีความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปช่วยเหลือทางเด็กๆ ให้ความดูแลและให้ความปลอดภัยตั้งแต่วันแรก จากนั้นได้ประสาน พัฒนาสังคม เข้าไปช่วยเหลือเด็กๆอย่างใกล้ชิดส่วนของผู้เป็นพ่อได้ดื่มยาฆ่าแมลงไปเช่นกัน ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด พอผู้เป็นพ่อได้สติ ฟื้นตัวก็ได้สอบปากคำทันที โดยผู้เป็นพ่อต้องหาได้ให้การปฏิเสธว่า อ้างว่าไม่ได้เป็นคนเอายาฆ่าแมลงให้เด็กๆกิน แต่เด็กๆกินด้วยตัวเองซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้รวยรวมพยานหลังฐานในที่เกิดเหตุ และยังหาหลักฐานเพิ่มเติม ว่าก่อนหน้านี้ผู้เป็นพ่อเคยมีพฤติกรรมอะไรมาบ้าง เคยทำร้ายลูกหรือพาลูกไปเสี่ยงอันตรายหรือไม่เพื่อเอามาประกอบกับเจตนาว่าผู้เป็นพ่อ จะทำกับลูกจริงหรือไม่แม้ผู้ต้องหาจะปฎิเสธ แต่พยานหลักฐานในพื้นชัดเจน หากผู้ต้องหาทำจริงทางเจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาได้ทันทีโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับทางครอบครัว อย่างใกล้ชิดโดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับพ่อที่ก่อเหตุแล้วคือข้อหาพยายามฆ่าส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและพิจารณาหากพบก็จะแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป