วันที่ 5 ส.ค. 67 ที่กรมชลประทาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวล เรื่องน้ำหลากและการปล่อยน้ำที่อาจจะมีปลาหมอคางดำไหลไปตามกระแสน้ำข้ามไปยังพื้นที่อื่น ว่า ไม่มีการปล่อยน้ำอย่างที่สื่อถาม เพราะปริมาณน้ำไม่ได้ขนาดนั้น และเรื่องของปลาหมอคางดำนั้น เราคงจำเรื่องตั๊กแตนปาทังก้าได้ เพราะตนเอาอยู่ อย่าให้เป็นประเด็นทางสังคม เพราะตอนนี้ชาวบ้านก็บ่นแล้วว่าเริ่มหาปลาหมอคางดำยาก

 

เมื่อถามว่า มีการพบปลาหมอคางดำตามประตูระบายน้ำนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เหลือแล้วขอเวลา 1 เดือน เพื่อประเมินผลอีกครั้ง ยืนยันว่าตนเอาอยู่ ซึ่งที่จริงเรื่องปลาหมอคางดำ ตนเป็นคนจุดประเด็นก่อน ตั้งแต่มารับหน้าที่แล้วและก็ทำร่วมกับน้องๆหลายคน ซึ่งตนไม่อยากพูดมาก

 

เมื่อถามต่อว่า ได้สรุปต้นตอของปลาหมอคางดำตามที่ประชาชนอยากรู้แล้วใช่หรือไม่  ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวว่า ได้ข้อสรุปแล้ววันที่ 6 ส.ค.ตนจะนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่าไปพูดก่อนที่จะมีการแถลงข่าว ตนทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว แต่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคนแถลง ไม่ต้องห่วงธรรมนัสชัดเจน

 

เมื่อถามย้ำว่า ปลาหมอคางดำจะหมดไปจากลำน้ำเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่ามว่า เรามีแผนและมาตรการชัดเจน ประชาชนไม่ต้องห่วง อย่าเอาไปเป็นประเด็นสังคม เอาเรื่องอื่นดีกว่าอย่างเช่นปากท้องชาวบ้าน อย่าเอาเป็นประเด็น บางครั้งบ่อกุ้งล้างไปแล้วก็ยังเอามาเป็นประเด็นว่าถูกปลาหมอคางดำกิน เรามีข้อมูลหมด เรามีหน่วยงานประมงทุกจังหวัด 

 

เมื่อถามอีกว่า ไม่ได้พบปลาหมอคางดำในบ่อกุ้งใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่พบในบ่อ แต่บางครั้งบ่อกุ้งร้างไปแล้วก็เอามาเป็นประเด็นว่าปลาหมอคางดำไปกินของชาวบ้านบางครั้งมันไม่ใช่ และเรามีข้อมูลทั้งหมด

 

เมื่อถามถึง ภาพรวมที่จะจับปลาหมอคางดำได้ 4 ล้านกิโลกรัมภายในครึ่งปี  ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวว่า ไม่ใช่ครึ่งปี เพราะ 1 เดือนก็รู้แล้ว ซึ่งมาตรการที่เราทำต้องประเมินผลทุกเดือน และสิ่งเหล่านี้ตนเป็นคนจุดประเด็นไม่ใช่คนหิวแสง อย่าหลงประเด็น และอย่าเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง และในวันที่6 ส.ค.ที่จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)คือ 7 มาตรการที่จะมีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากที่แจ้งด้วยวาจาไปแล้ว