“อนุทิน” สั่งกรมการปกครองเร่งเอาผิดหากพบขบวนการขึ้นโฆษณาขายพาสปอร์ตผิดกฎหมาย ด้าน"รมว.แรงงาน" สั่งตรวจสอบป้ายโฆษณาจีน เร่งหาบริษัทใดเป็นผู้ให้โฆษณา ย้ำกฎหมายไทยต้องศักดิ์สิทธิ์ ลั่นไม่ยอมให้ใครใช้ไทยเป็นสถานที่ทำผิดกฎหมาย เผยตั้งข้อหา "หญิงชาวจีน" ขึ้นป้ายขายพาสปอร์ต ขณะที่ "แรงงานผิดกฎหมาย" เตรียมเฮ! "กระทรวงแรงงาน" จ่อขอไฟเขียวขึ้นทะเบียนนำเข้าระบบอีกครั้ง
ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง(ยผ.) ถนนพระราม6 กทม. เมื่อวันที่ 24 ก.ค.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีป้ายโฆษณาทำพาสปอร์ต ซื้อขายสัญชาติ ที่มีกระแสข่าวเบื้องหลังขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า การสอบสวนเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้การดำตรวจสอบก็เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อวานได้มอบนโยบายให้กรมการปกครองว่าป้ายลักษณะเช่นนี้ได้มีการตั้งมาตรฐานแล้ว หากเป็นป้ายโฆษณาให้ไปทำพาสปอร์ตของประเทศใดก็ตามถือว่าผิด ประเทศไทยไม่ใช่เป็นที่ที่ใครจะมาอยู่แล้วทำสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ขายพาสปอร์ตไทยแล้วจะไม่ผิด เรื่องนี้ถือเป็นสามัญสำนึกที่ต้องรู้ว่าพาสปอร์ตไม่สามารถขายได้ และเมื่อรู้ว่าการกระทำนั้นผิดก็ต้องหยุดเสียนั่นคือสิ่งที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีมาตรการอย่างไรในการรายงานผลความคืบหน้าคดีป้ายดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานอยู่แล้วมองว่าขณะนี้คงไม่ต้องรายงานแล้ว เพราะได้ไล่ปลดป้ายลงทั้งหมดแล้ว แต่ไม่พอแค่นั้นกรมการปกครองที่มีภารกิจเกี่ยวข้องในการออกวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมืองของต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทยต้องไปร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบสวนถึงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเครือข่ายอะไรที่ทำเช่นนี้อยู่หรือไม่นั้น หากทราบที่มาก็ให้ไปกำจัดแค่นั้น “อย่าไปใส่ความเครียดอะไรมากๆ ให้กับสังคม ให้กับประชาชน เรื่องบางเรื่องเมื่อเราไปจัดการก็จะจบไป”
เมื่อถามว่า คนส่วนใหญ่กลัวว่าไทยจะเป็นมณฑลไท่กั้วเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของจีน นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่หรอก” ประเทศไทยเรามีอธิปไตยอย่างที่ตนเคยบอกไป เราไม่รังเกียจคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ตามสัมมาอาชีพซึ่งดีซะอีกเพราะบางอาชีพได้ขายของเอารายได้เข้าประเทศ พวกเราทุกคนก็เป็นต่างชาติทั้งนั้น
“ท่านชาดา ต่างชาติไหมล่ะ ก๋งผม อาม่าผม ก็คนต่างชาติทั้งนั้น ทุกคนก็ทำตามครรลอง มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและสร้างเนื้อสร้างตัวในประเทศไทย ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็คงอยู่เมืองไทยไม่ได้ ก็แค่นั้นเอง” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรณีที่มีป้ายโฆษณาภาษาจีนรับจัดหาแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย บริเวณริมถนน 304 นิคมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการจัดหางานเร่งตรวจสอบว่าบริษัทใดเป็นผู้โฆษณา เป็นบริษัทคนไทยหรือต่างชาติ และได้รับอนุญาตให้จัดหาคนต่างด้าวเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งกำชับให้ตรวจสอบว่ามีป้ายลักษณะนี้ในจังหวัดอื่นโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมอีกหรือไม่ หากผิดกฎหมายจะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
นายภูมิพัฒน์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรี รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ความสำคัญ โดยจะไม่ยอมให้ใครใช้ไทยเป็นสถานที่ทำผิดกฎหมาย ส่วนกรณีป้ายโฆษณาชวนให้ซื้อพาสปอร์ต 4 สัญชาติบริเวณสี่แยกห้วยขวางนั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าผู้ว่าจ้างให้ขึ้นป้ายโฆษณาเป็นหญิงชาวจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานในราชอาณาจักร โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้สั่งการให้กรมการจัดหางานร่วมสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับคนต่างด้าวรายนี้ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ หากมีการร้องขอมา
"รมว.แรงงานมีนโยบายเจอ จับ ปรับ ผลักดัน แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายอย่างจริงจังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงเป็นเวลา 4 เดือนต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานข้ามชาติทั่วประเทศแล้ว 10,504 แห่ง ดำเนินคดีกับแรงงานผิดกฎหมาย 889 คน และเร็วๆ นี้จะมีการประกาศขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติอีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งภาครัฐจะควบคุมได้ง่ายขึ้น มีการจัดเก็บภาษี และดูแลคุณภาพชีวิตตามหลักมนุษยธรรมสากลด้วย" นายภูมิพัฒน์ กล่าว