นายกสมาคมการประมงปัตตานียืนหนังสือขอความอนุเคราะห์เร่งรัดผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการซื้อเรือคืน เรียน ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัดดานี

วันที่ 18 ก.ค. 67 ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐนันท์ ทองนุ่น ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี ร่วมรับหนังสือจากเรื่อง ขอความอนุเคราะห์เร่งรัดผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการซื้อเรือคืน เรียน ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี (ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัดดานี) นำโดย นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี มี ผู้ประกอบการกิจการ และลูกจ้างเรือประมง เข้าร่วมพร้อมถือป้าย มีข้อความให้รับบาลช่วยอนุมัติซื้อเรือคืนด่วน ชาวประมากเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า รายละเอียดตามหนังสือนี้ ขอความอนุเคราะห์เร่งรัดผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการซื้อเรือคืน ด้วย สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ได้ติดตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการ จัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนของภาครัฐ และเป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการกิจการ เรือประมงตามมาตรการของรัฐ เพื่อลดจำนวนเรือประมงเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน นั้น

กรมประมงได้จัดทำโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ โดยการรับซื้อเรือคืนสำหรับเรือประมงที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการจัดการด้านการประมงที่ยั่งยืนของทางรัฐบาล และได้มีชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประสบปัญหาจากมาตรการต่างๆ ของทางภาครัฐ รวมถึงปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำที่ตกต่ำ ราคาน้ำมันที่น้ำมันที่สูงขึ้นตลอดจนพื้นที่ทำกินที่ลดน้อยลง ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจังหวัดปัตตานี ได้มีผู้ประกอบการเรือประมงที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบนี้เป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งโครงการรับซื้อเรือนี้ได้มีการดำเนินโครงการตามขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2562 และจนถึง เมื่อวันศุกร์ ที่ 26เมษายน 2567 กรมประมงได้จัดประชุมชี้แจงความก้าวหน้าของโครงการนำเรือออกนอกนอกระบบดังกล่าว ให้กับผู้ประกอบการประมงได้รับทราบถึงความคืบหน้าของโครงการฯ

โดยขั้นตอนการดำเนินโครงการดังกล่าว ดำเนินการมาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนาม แต่ภายหลังเรื่องกลับเงียบหายไปทั้งๆ ที่โครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และมีการสำรสำรวจความถูกต้องของเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการจนครบถ้วนตามกรอบระยะเวลาของโครงการฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการเรือประมงที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก จากการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเรือให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ทรุดโทรมและจมลง ขาดรายได้ บางรายไม่สามารถประกอบอาชีพประมงตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลา 5 ปี เต็ม ชาวประมงบางรายต้องไปกู้เงินจากสถาบันการเงิน และกู้เงินนอกระบบมาเพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพเพื่อเลี้ยงครอบครัวก่อน โดยมีความหวังว่าจะได้รับเงินจากโครงการฯ ดังกล่าว มาใช้หนี้ที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐเพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ในการนี้ สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ในฐานะเป็นตัวแทนผู้ประกอบการเรือประมงที่ประสงค์ขายเรือคืนให้รัฐบาลตามโครงการฯ จึงขอนำเรียนปัญหาดังกล่าวเพื่อขอความอนุเคราะห์มายังท่าน ในการเร่งรัดผลักดันให้รัฐบาลเร่งพิจารณาดำเนินโครงการรับซื้อเรือประมงคืนเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประกอบการประมงที่มีรายชื่อในระบบของโครงการ และผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่รัฐกำหนดไว้แล้ว เพื่อที่จะได้ปลดภาระค่าใช้จ่ายในการที่จะต้องดูแลรักษาเรือให้คงอยู่ และเพื่อที่จะได้นำเงินชดเชยจากโครงการนำเรือออกนอกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างยั่งยืน ไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาและเป็นทุนสำหรับปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ต่อไปจึงเรียนมาเพื่อพิจารณาขอแสดงความนับถืออย่างสูง

ด้านนายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีกล่าวว่า ภายหลังจากที่ทางนายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย ผู้ประกอบการกิจการ และลูกจ้างเรือประมง นำหนังสือจากเรื่อง ขอความอนุเคราะห์เร่งรัดผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการซื้อเรือคืน เพื่อนำไปมอบให้กับ  ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีโดยผ่านทางท่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีและทางจังหวัดจะนำไปเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป