จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพรถยนต์กระบะสีแดงจอดขวางบริเวณทางออกหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยเทิดราชัน 17 พื้นที่ดอนเมือง และมีการระบุว่า รถคันดังกล่าวเป็นของนายนายเอกรัฐ หรือ เอก สายเต๊าะ 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้เข้ามาพูดคุยก่อนจะทำการยกรถออก และควบคุมตัวนายเอกรัฐ มาที่ สน.ดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามพูดคุยและซักถามถึงเรื้องที่เกิดขึ้น โดยนายเอกรัฐ ระบุแต่เพียงว่าให้ไปคุยที่บ้าน และทำเสียงเต๊าะอยู่ตลอดเวลา และมีการพูดถึงหนุ่ม กรรชัย รวมถึงทนายไพศาล เกี่ยวกับการรักษาสัจจะที่ให้ไว้ และเงิน 1 แสนที่สัญญาไว้ ทั้งนี้ระหว่างทางที่จะไปพบพนักงานสอบสวน นายเอกรัฐได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่าถ้าถามอีกคำจะต่อย ก่อนจะใช้มือปัดมือถือที่ผู้สื่อข่าวกำลังบันทึกภาพหลุดมือ (ไม่ตกพื้นรับไว้ทัน ) 

และทางนายเอกรัฐ ได้พยายามสอบถามว่าเขาถูกจับข้อหาอะไร และให้เจ้าหน้าที่อ่านบันทึกจับกุมให้ฟัง ก่อนจะยอมรับผิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พก อาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งนายเอกรัฐ อ้างว่าไม่ใช่อาวุธเป็นเพียงมีหมอ และ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก่อนทำการเปรียบเทียบปรับ 200 บาท ส่วนกรณีที่จอดรถขวางทางออกหมู่บ้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ออกใบสั่งให้มาเสียค่าปรับในภายหลัง

ภายหลังที่เสียค่าปรับเรียบร้อยนายเอกรัฐ ได้เดินทางกลับมาที่หมู่บ้านโดยจอดรถขวางทางเข้าแล้วเดินไปที่สำนักงานนิติบุคคลโดยทันทีพร้อมทั้งถามหาเจ้าหน้าที่แต่ไม่มีใครออกมาก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านและปล่อยรถจอดคาไว้จน รปภ.หมู่บ้านต้องขอกุญแจเพื่อขับไปจอดหน้าบ้านให้

โดยนายเอกรัฐ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าเป็นเพราะรถตัวเองดับ ประกอบกับมีปัญหาเรื่องอื่นเลยกะว่าจะจอดคุย ซึ่งก่อนหน้าที่มีเหตุก็เข้าออกทางนี้กันแต่พอแจ้งไปก็ปิดทางเข้าออกแต่หมาวิ่งเข้าออกได้ และคนชื่อกิ๊ฟ ทำตัวเองตกงานไปสมัครที่ไหนก็บอกว่าต้องรอคดีจบก่อนยังไม่รับ และตนคิดเองว่าทางพฤกษา ไปขู่ซีพีเพื่อยึดบ้านคืนหรือเปล่า

ส่วนทำไมคดีที่เกิดขึ้นถึงยังไม่จบเพราะบ้านคู่กรณียังไม่มีการไปถอนแจ้งความ บ้านตัวเองก็ไฟช็อต ซึ่งแจ้งไปก็บอกช่างแอร์ที่ตนเองให้มาติดไม่ได้มาตรฐานซึ่งเป็นช่างของซีพี จะไม่ได้มาตรฐานได้อย่างไร พอติดต่อทางนิติอ้างช่างประชุมเลยต้องหาช่างมาเองตนเองเป็นช่างจะไม่รู้ได้อย่างไร ส่วนที่จอดรถขวางยอมรับว่าตั้งใจด้วยส่วนหนึ่งและทำมา 2 วันแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาที่มีกับนิติซึ่งเตะตนเองออกจากไลน์หมู่บ้านเพราะไปขายของในไลน์ ทำไมไม่มาคุย ที่ตนใช้คำว่ากูมึงในกลุ่มไลน์ตนเองมองว่าเป็นคำที่สุภาพ ถ้าไม่สุภาพก็มาซื้อบ้านคืนไป กูไม่สนจนหรือรวย กูโลกไม่สวยแต่เป็นกูมึงเนี้ยแหละถ้าไม่ดีกะกูก็กูมึงถ้าดีกะผมก็คุณผม ที่มีภาพตนเองไปเคาะบ้านใครตนเองยืนยันไม่เคยทำเมื่อผู้สื่อข่าวเปิดภาพให้ดูก็ยอมรับว่าไปจริง แต่ไปถามไม่ได้ไปโวยวาย บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่จบอย่างแน่นอน