วันที่ 14 ก.ค.2567 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.สายสื่อมวลชน แกนนำกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่มีสมาชิกจำนวน 30 โดยเข้าทยอยรายงานตัวแล้วบางส่วนตามที่แต่ละคนสะดวก ส่วนจุดยื่นของ สว.พันธุ์ใหม่นั้น เรารวมตัวกันตามอุดมการณ์ที่เรามองในเรื่องของเสรีนิยมก้าวหน้ามีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และจะขับเคลื่อนให้ภาพลักษณ์ของ สว.รุ่นใหม่เป็น สว.ของประชาชน เป็นสว.ที่โหวตตามมติมหาชน และเป็นสว.ที่รับใช้ประชาชน

เมื่อถามว่าเอามาสู้กับสว.สายสีน้ำเงินหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราคงไม่ใช้คำว่าสู้มันเป็นอุดมการณ์ของเราตั้งแต่เราลงสมัคร สว. ตั้งแต่รอบอำเภอ จังหวัด ประเทศ และเราเป็นผู้รอด ดังนั้นเราเข้ามาคงจะร่วมไม้ร่วมมือกับ สว.ท่านอื่นๆ ในการที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์ของ สว. ให้เป็นสถาบันที่เป็นที่พึ่งของประชาชน และประชาชนมีความหวังได้เราจะแตกต่างจาก สว.ชุดเดิม

เมื่อถามว่าจะเห็นความแตกต่างในเรื่องใดบ้าง น.ส.นันทนา กล่าวว่า จุดที่เราจะเริ่มต้นกัน เรามองว่ากติการได้มาซึ่ง สว.มันเป็นกติกาที่เชื่อว่าประชาชนจำนวนมาก รู้สึกว่ามันไม่ปกติและเรียกว่าเป็นกติกาที่วิปริตก็ได้ ตรงนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่มองว่าทางสภาผู้แทนราษฎรอาจจะเสนอขึ้นมาเพื่อให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ในหมวดการได้มาซึ่ง สว. ต้องเปลี่ยนกติกา นอกจากนั้นเราก็จะผลักดันเรื่องต่างๆ ที่เป็นปัญหาของประชาชน ยกตัวอย่าง เช่น กรณีป่าทับลาน ปัญหาความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัญหาเยาวชนที่ได้รับการจองจำโดยที่ไม่ได้รับการประกันตัว สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่เราจะเร่งผลักดันให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง และประชาชนหวังว่า สว.ชุดใหม่จะแก้ปัญหาให้ได้



เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภา ทางกลุ่มมีข้อยุติอย่างไร น.ส.นางนันทนา กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มของเราก็ได้คุยกันว่าโดยสปิริตแล้ว กลุ่มของเรามีจำนวนไม่มาก แต่เราก็จะแสดงให้เห็นว่าทีมของเรามีศักยภาพ ดังนั้นเราก็จะส่งลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาทั้ง 2 แหน่ง เราจะส่งทั้งหมด ส่วนจะเสนอชื่อใครนั้นขออุบไว้ก่อน ยังไม่ตกผลึก  เรายังคงคุยกันแต่เนื่องไป แต่เราส่งลงชิงแน่นอน

ต่อข้อถามว่าในกลุ่มมี 30 เสียงคาดหวังว่าจะได้รับเลือก หรือเป็นเพียงยุทธศาสตร์ น.ส.นันทนา กล่าวว่า โดยจำนวนของเราอาจจะไม่มากนัก แต่เราเชื่อในคุณภาพ ศักยภาพของบุคลากรที่เราส่งลงไปชิงตำแหน่ง ซึ่งตรงนี้จะมีการแสดงวิสัยทัศน์และมีการถ่ายทอดสด เป็นความเชื่อมโยงกับประชาชนโดยตรงในฐานะที่ สว.เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย

“ประชาชนทั้งหลายก็จะได้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้ที่ลงสมัครในตำแหน่งต่างๆ เราเชื่อว่าเป็นการเชื่อมโยงให้ประชาชนเห็นศักยภาพของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ส่วนจะได้รับเสียงโหวตพอหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับท่าน สว.ทั้งหลายที่ท่านเข้ามา ถ้าท่านเป็นอิสระ ท่านก็คงจะเลือกตามศักยภาพ ตามคุณภาพ ของผู้ที่ลงสมัคร” น.ส.นันทนา กล่าว

เมื่อถามว่าทางกลุ่มจะโน้มน้าวกลุ่มบ้านใหญ่ที่มีอยู่ประมาณ 140  คนให้เลือกสมาชิกในกลุ่มอย่างไร น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราเชื่อว่าบุคคลที่เราส่งลงสมัครเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีศักยภาพ สามารถที่จะดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่เราส่งลงชิงได้ ตรงนี้ด้านหนึ่งประชาชนก็จะได้รับชมผ่านการถ่ายทอดสด ในขณะเดียวกัน สว.ทั้งหลายที่อยู่ในสภาก็จะได้เห็นวิสัยทัศน์ของแต่ละคนที่ลงชิง ตนคิดว่าถ้าเผื่อมองในแง่ของประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ สว.ทั้งหลายท่านเป็นอิสระที่จะตัดสินใจเลือก ว่าท่านจะเลือกบุคคลใดไปดำรงตำแหน่งใด อันนี้ก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจและวิจารณญาณของ สว.ที่เป็นอิสระทุกท่าน

เมื่อถามว่าจะส่งตัวแทนที่เป็นสตรีมาชิงตำแหน่งหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงและยินดีสนับสนุนให้ผู้หญิงมีพื้นที่ทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวุฒิสภา ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจไม่ค่อยเห็นบทบาทของผู้หญิง เราสนับสนุนและเชื่อว่าท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายก็คงอยากเห็นพื้นที่ของผู้หญิงที่ได้มาแสดงบทบาททางการเมือง ต่อข้อถามว่า ใน 3 ตำแหน่ง น.ส.นันทนาสนใจจะลงตำแหน่งใด น.ส.นันทนา กล่าวว่า เป็นเรื่องมติของกลุ่มที่จะสนับสนุน และส่งลงชิง

เมื่อถามว่ากลุ่มบ้านใหญ่ หรือกลุ่มสีต่างๆ จะเป็นอุปสรรคในการที่ทางกลุ่มจะเข้าไปดำรงตำแหน่งต่างๆ หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ในส่วนหนึ่งตนคิดว่าคนที่เขาอยู่ในกลุ่มที่สื่อมวลชนบอกว่าเขาเป็นสีนั้นสีนี้ เขายังไม่ได้ออกมาแสดงตัวว่าเขาเป็นสีนั้นสีนี้ ตนจึงไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นอย่างที่สื่อประเมินหรือคาดการณ์ไว้หรือไม่ เพราะหลายคนที่ออกมาสื่อสารกับสาธารณะก็บอกว่าตัวเองไม่มีสี ถ้าเผื่อมองว่าไม่ได้มีสี หรือค่ายก็น่าจะโหวตได้อย่างอิสระ และมองในแง่ของเป้าหมายคือประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติสูงสุด ก็ชักชวนว่าถ้าท่านคิดว่าไม่มีสีไม่มีค่ายก็โหวตเพื่อให้ได้บุคคลากรที่มีศักยภาพและมีคุณภาพได้เข้าไปดำรงตำแหน่งเพื่อทำหน้าที่ให้กับประชาชน

เมื่อถามต่อว่าความเป็นเอกภาพของสว.พันธุ์ใหม่ ในอนาคตจะเพิ่มหรือลด น.ส.นันทนา กล่าวว่า ความเป็นเอกภาพ อุดมการณ์จุดยืนตรงนี้เรามีตรงกัน แต่เราไม่ได้บริหารจัดการแบบบริษัท หรือองค์กรแบบนั้นเพราะฉะนั้นทุกคนก็มีสิทธิ์ มีเสียง และมีความคิดที่จะแสดงออก เราเคารพความคิดเห็นของกลุ่มเรา ตรงนี้เรารวมกันอยู่ด้วยจุดยืน และอุดมการณ์ และเราก็สร้างแบรนด์ของเราว่าเป็นสว.พันธุ์ใหม่ ที่จะรับใช้ประชาชน

“ดิฉันเชื่อว่าตรงนี้จะทำให้สว.อิสระหลายท่านเห็นสอดคล้องในอุดมการณ์ของเรา และจะ เข้าร่วมกับเรา เพราะเรามีจุดยืนร่วมกันคือรับใช้ประชาชน เชื่อว่าในอนาคตเราจะมีสว.พันธุ์ใหม่ เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับเราเพิ่มขึ้น” น.ส.นันทนา กล่าว

เมื่อถามว่าทำไมสว.ถึงเปลี่ยนชื่อกลุ่มจากสว.ประชาชนมาเป็นสว.พันธุ์ใหม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เรารวมตัวกันมาภายใต้แคมเปญว่าเราจะเปลี่ยนภาพภาพลักษณ์ของสว. ตั้งแต่การลงสมัครและทำให้แตกต่างจากสว. ชุดเดิมที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เบื้องต้นเราจึงใช้คำรวมๆ ว่าสว.ประชาชน ซึ่งจะถูกใช้ในแคมเปญที่เลือกกันมาจนสิ้นสุดและได้รับเรื่องเป็นสว. และตอนนี้เรามองว่าถ้าน่าจะมีแบรนด์ที่ชัดเจนและเป็นที่จดจำ ทำให้ประชาชนคิดถึงกลุ่มของพวกเรา จึงใช้ชื่อว่าสว.พันธุ์ใหม่ ยึดโยงกับประชาชน และมองเห็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เห็นประชาชนเป็นเจ้านายของเรา

เมื่อถามว่ารายชื่อ 30 คนจะซ้ำกับกลุ่มกลุ่มอื่นหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ในส่วนของเราก็รวมตัวกันตามอุดมการณ์ ก็ไม่ทราบว่าจะมีใครมาดึงคนของเราไปกลุ่มไลน์ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้หรือไม่  เพราะดูแล้วมีหลายกลุ่มถ้านับรวมกันคงจะมีสว. 400-500 คนแล้ว ตนก็ไม่ทราบ ก็อาจจะมีลักษณะรวมกันเพื่อที่จะ เป็นพลังอำนาจในการที่จะต่อรอง เราก็ไม่ทราบ แต่กลุ่มของเรารวมกันตามอุดมการณ์

เมื่อถามว่ารายชื่อชิงประธานสภาจะเคาะเมื่อไร น.ส.นันทนา กล่าวว่า ใกล้วันเปิดประชุมสภาฯ ส่วนนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. เป็นตัวแทนกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุป แต่เป็น พันธมิตรกับเรา คือเรารวมกันมาตั้งแต่ต้น แต่คนที่จะร่วมก็คือมาในทิศทาง อุดมการณ์ที่สอดคล้องกัน

เมื่อถามว่าย้ำนายนายบุญส่งเข้าๆออกๆหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่คนที่เข้ามาในกลุ่มแรกคือเป็นสารตั้งต้น และกลุ่มที่เข้ามาร่วมตามแนวทางอุดมการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นันทนา ได้ให้สว.ทางกลุ่มถือป้ายชื่อสว.พันธุ์ใหม่มารายงานตัวด้วย ปรากฏว่ามีทั้งหมด 7 คนเท่านั้น