วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น.นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน จะพายาย ฮวย วัย 85 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น. 3 และ พ.ต.อ.กฤต ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้านที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่า 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาทุบตีมาแล้วประมาณ 30 ครั้ง
นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทางญาติของยายฮวย ได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศ หาคนดูแลผู้สูงอายุ ค่าจ้างวัน 500 บาท ต่อมามีผู้มาสมัครดูแลชื่อ น.ส. นภสร หรือกระต่าย อายุ 49 ปี ระหว่างที่ดูแลญาติสังเกตุเห็นความผิดปกติก็เลยบันทึกกล้องวงจรปิดด้วยมือถือบันทึกแล้วก็มาเปิดย้อนหลังดูก็พบว่าทางแม่บ้านที่มาดูแลเวลาป้อนข้าวก็เอาช้อนกระแทกปากคุณยายทุบตีหยิกตามตัวคุณทวดบ้างก็เห็นในกล้องวงจรปิด แล้วยังมาทราบว่าฟันหัก เป็นแผลตามตัว ล่าสุดทางครอบครัวถามว่าทำไมทำแบบนี้ เขาก็บอกว่าคุณยายดื้อ แล้วยังรับอีกว่าได้ทำร้ายไปประมาณ ทางครอบครัวก็มองว่าถึงแม้ตอนนี้เขาจะลาออกไปแล้ว แต่ครอบครัวมองว่าถ้าปล่อยเขาไปอย่างนี้เดี๋ยวก็ไปรับจ้างไปดูแลผู้สูงอายุบ้านอื่นอีกแล้วก็จะทำร้ายอีกมันเป็นอันตรายกับสังคมเป็นภัยสังคมก็เลยขอให้ทางสายไหมต้องรอด พาคุณยายฮวยมาและครอบครัวมาแจ้งความดำเนินคดี
ด้าน นายมาณพ อายุ 56 ปี ลูกเขย ยายฮวย เล่าว่า มี เมื่อประมาณ3 อาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส. นภสร หรือกระต่าย ได้มาสมัครเป็นแม่บ้านดูแลแม่ยายที่ป่วยติดเตียง ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท พร้อมพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย ช่วงแรกๆ น.ส. นภสร หรือกระต่ายเป็นคนที่พูดจาค่อนข้างดี แล้วก็พยามบอกเราว่าเขามีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยประมาณซัก 20 เคส ซึ่งเราโอเคและเกิดความสบายใจ แต่ว่าช่วงที่มาอยู่แรกๆ ยายฮวยก็ยังดูสดชื่น แต่ ประมาณ 2 อาทิตย์รู้สึกว่าคุณยายเริ่มซึมและโทรมมากจนวิตก พอตอนเย็นกลับจากทำงานก็พบว่าปากคุณยายแห้ง แต่คิดว่าคนดูแล คงให้กินน้ำน้อย
จนเมื่อวันวันที่ 1 ก.ค.ตนกลับกลับมาจากทำงานก็ตกใจมาก เพราะเห็นตามร่างกายมีรอยฟกช้ำและยังพบฟันหัก 1 ซี่ จึงได้สอบถาม น.ส. นภสร ฟันคุณยายหักเพราะอะไร เขาก็บอกว่าช่วงคุณยายฟันหัก เขาออกไปซักผ้าข้างนอก จนวันที่ 2 ก.ค.จึงได้เปิด กล้องวงจรปิดดู ก็ปรากฏว่ามีการทำร้ายร่างกายคุณยาย เมื่อเห็นภาพตนและแฟนเห็นก็น้ำตาซึม เสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับครอบครัวตัวเอง
ต่อมา วันที่ 5 ก.ค. ตนก็เริ่มเค้นถาม น.ส. นภสร ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายก็ยอมบอกว่ามีการทำร้ายร่างกายไป 20-30 ครั้ง ตาม ภาพจับกล้องวงจรปิด โดยให้เหตุผลอ้างว่ายายดื้อ พยายามจิกและจับตัวเขา ซึ่งตนคาดว่าเพราะอาการอัลไซเมอร์ยายฮวย อาจทำให้คนดูแลหงุดหงิดจนทำร้ายร่างกาย และมีการท้าทายว่าให้ไปแจ้งความที่ สน.ไหนก็ได้ ตนจึงมาร้องเรียนกับมาเพจสายไหมเพราะบุคคลราย ถือเป็นบุคคลอันตราย เกรงว่าจะไปก่อเหตุซ้ำกับครอบครัวอื่นอีก ล่าสุดตนก็ยังเห็น น.ส.นภสร ยังคงโพสต์หางานดูแลคนแก่ในกลุ่มเฟสบุ๊คอยู่เลย
ด้าน พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะส่งตัวคุณยายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบสำนวนทางคดี และจะเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา
#สายไหมต้องรอด #แม่บ้านมหาภัย #ข่าววันนี้ #ทำร้ายร่างกาย