วันที่ 9 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.​เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ต.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 ของ กก.2 บก.ปอศ.​ร่วมกันจับกุม นายวรวิทย์   อายุ 40 ปี ในความผิดฐาน  ในความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากรฯ จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ตำบลบางกระเจ้า อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมของกลางที่ตรวจยึด สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ประเภท ยากันยุง ยี่ห้อ laojan และยี่ห้ออื่นๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณ 36,600 ชิ้น หรือ 3,660 กล่อง

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนทราบว่า บ้านพักดังกล่าว มีการนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชนจึงได้ทำการขอหมายค้น จากศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 441/2567 ก่อนจะเข้าทำการตรวจค้นและตรวจสินค้าโดยละเอียด

เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นเข้าตรวจค้น พบนายวรวิทย์  อายุ 40 ปี  แสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าลักลอบนำเข้าหนีภาษีจากต่างประเทศ เป็นประเภท ยากันยุง ยี่ห้อ laojan และยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 36,600 ชิ้น  ซึ่งเมื่อปี 2566 ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนให้ซื้อยากันยุงที่มีฉลากไทยและมีเลขผลิตภัณฑ์ เนื่องจากพบว่ายากันยุงที่นำเข้าจากต่างประเทศหลายยี่ห้อ มีสารกลุ่มไพรีทรอยด์ (pyerethriods ) เมเพอร์ฟลูริน (Meperfluthrin) และไดมีฟลูทริน (Dimefluthrin) ซึ่งมีพิษต่อคนและสัตว์ หากสูดดมในปริมาณมาก  อาจทำให้รู้สึกมึนงง ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก อ่อนเพลีย ชัก และหมดสติได้ ดังนั้นสินค้าดังกล่าว จึงต้องขออนุญาตนำเข้า ผลิต และจำหน่าย เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

แต่จากการตรวจสอบยากันยุง ของกลางที่ตรวจพบนั้น ทางนายวรวิทย์   ไม่สามารถแสดงเอกสารการนำเข้าและการชำระภาษีศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกตรวจค้นและยึดสินค้าดังกล่าวไว้ พร้อมทั้งทำการแจ้งข้อหากับนายวรวิทย์ ฯว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากรฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการและผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวต่อไป เพื่อจับกุมมาดำเนินคดีทั้งขบวนการ

 

ทั้งนี้ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัด ก่อนจะมีคนจีนมาเสนอขายยากันยุงในราคาถูก เมื่อลองนำมาขาย พบว่าขายดี จึงได้ตัดสินใจรับยากันยุงเหล่านี้มาขายทางออนไลน์ โดยทำมานานกว่า2 ปีแล้ว และอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นยากันยุงเถื่อนและมีสารอันตรายต่อประชาชนหากสูดดม

โดยตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดที่ได้ลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน 

#ข่าววันนี้ #ยากันยุงเถื่อน #สารอันตราย #ตำรวจสอบสวนกลาง