สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 จวบจนถึงปีนี้ พ.ศ. 2567 ครบรอบ 21 ปีแล้ว ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ สพฐ. พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ ให้เกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาสมรรถนะอย่างเต็มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศให้ทัดเทียมกับระดับสากล 

สพฐ. ภายใต้การนำของ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเข้าถึงนักเรียนและครูในทุกพื้นที่ โดยดำเนินการโครงการต่างๆ อย่างเข้มแข็ง จนเกิดเป็นภาพความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา อย่างแท้จริง 

- การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา 
สพฐ. ได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ครูและบุคลากรทุกคน ให้มีเงินเดือนเหลือมากกว่าร้อยละ 30 พร้อมเสริมและพัฒนาสมรรถนะทางการเงินให้ครูและบุคลากร รวมถึงนักเรียนทุกคน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินด้วยตัวเอง โดยดำเนินการจัดตั้งสถานีแก้หนี้ ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 แห่ง มีการติดตาม ช่วยเหลือทุก 2 สัปดาห์ จัดทำโปรแกรมแก้หนี้ออนไลน์ ทำให้ครูและบุคลากรเกือบ 6 แสนคน ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ 40 แห่ง และแก้ไขปัญหาสำเร็จ จำนวน 710 คน มูลหนี้กว่า 2,130 ล้านบาท

- ส่งเสริมเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) 
มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จะนำร่องการใช้งานแพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform: NDLP) ในกลุ่มโรงเรียนคุณภาพและโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่เปิดสอนในระดับชั้น ม.4-6 จำนวน 1,018 โรงเรียน เกิดประโยชน์กับนักเรียน จำนวน 547,991 คน รวมถึงครูและบุคลากรฯ จำนวน 59,664 คน ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และมีการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา

- การพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank)
เป็นการจัดทำระบบวัดผลเทียบระดับการศึกษา และประเมินผลการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนในระบบ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียน และประชาชน นำผลการเรียน หรือผลลัพธ์การเรียนรู้มาสะสมเทียบโอน เพิ่มคุณวุฒิการทำงาน และการศึกษาต่อ ก่อให้เกิดการพัฒนาตนเองที่เชื่อมโยง "การเรียนรู้กับการทำงาน" "การเรียนรู้และการฝึกอบรมใหม่" ได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดอายุ สร้างโอกาสให้แรงงาน และประชาชน ได้เพิ่มเติมพัฒนาทักษะใหม่ นำไปสู่การยกระดับวิชาชีพ โดยเดินหน้าจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการทดลองเชื่อมโยงเทียบรายวิชาของหลักสูตรแต่ละระดับ และการทดลองใช้แพลตฟอร์มต้นแบบระบบธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ และจัดทำหลักเกณฑ์การเทียบเคียง/เทียบโอนทักษะภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR

- โรงเรียนคุณภาพ 
สพฐ. ดำเนินการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพต้นแบบอย่างน้อย 1 โรงเรียนในแต่ละอำเภอ เพื่อนำร่องการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันและบริบทของโรงเรียน โดยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ ศักยภาพ และความสามารถในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน พัฒนาให้เป็นโรงเรียนศูนย์รวมการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนและชุมชน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเอกชน บ้าน วัด/ศาสนสถานอื่นๆ รัฐ และโรงเรียน บูรณาการเข้าด้วยกัน โดยปัจจุบัน สพฐ. มีโรงเรียนคุณภาพ จำนวน 1,808 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนคุณภาพ ระดับประถมศึกษา จำนวน 901 โรงเรียน และโรงเรียนคุณภาพ ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 907 โรงเรียน

- โครงการ “สุขาดี มีความสุข”
สพฐ. ตระหนักและให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของนักเรียนและครูในโรงเรียน จึงได้จัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงห้องสุขาให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 80 คน จำนวน 9,698 โรงเรียน ให้มีสุขภัณฑ์ที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ มีประตู ช่องระบายอากาศ ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน มีระบบน้ำประปาที่เพียงพอ มีระบบไฟฟ้า มีแสงสว่าง มีความปลอดภัย ทาสีห้องน้ำ จัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกให้เหมาะสมถูกสุขลักษณะ โดยครอบคลุมในหลักการ 5 ส ได้แก่ สะอาด สะดวก สบาย ถูกสุขลักษณะ และมีความสวยงาม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของครูและนักเรียนทุกคน

สพฐ. ยุคใหม่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ยกระดับคุณภาพการศึกษา เดินหน้าสู่ปีที่ 22 ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้เรียน ทั้งด้านทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ และทักษะการใช้ชีวิตอย่างรอบด้านในทุกมิติ พร้อมผนึกกำลังกับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาสังคม ในการประสานพลังความร่วมมืออย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อยกระดับการศึกษาไทย ตามนโยบาย "เรียนดี มีความสุข" ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียนและครูในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย