วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักปี 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะและถนนศรีนครินทร์ตามแนวโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังให้เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองส่วยเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะในระยะเร่งด่วน  รวมถึงปัญหาระบบท่อระบายน้ำบริเวณถนนสุขุมวิท  แนะควรพัฒนาระบบการแจ้งเหตุพื้นที่น้ำท่วมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สัญจรตามแนวโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่ยังเป็นปัญหาเรื้อรัง ส่งผลกระทบในการสัญจรและความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะแก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงฤดูฝน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนศรีนครินทร์ ตามแนวถนนที่มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง และได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมีคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินให้หน่วยงานทุกภาคส่วนนำไปดำเนินการไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 โดย เน้นย้ำใน  3 ประเด็นหลัก คือ 1. การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองส่วย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากคลองส่วยซึ่งเป็นคลองที่มีแนวขนานกับคลองประปาเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญในการระบายน้ำออกจากถนนแจ้งวัฒนะช่วงฝนตกหนัก ยังพบว่ามีสิ่งกีดขวางทางน้ำและยังไม่ได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคลองส่วยอยู่ในความดูแลของการประปานครหลวงซึ่งการประปานครหลวงไม่ได้มีภารกิจหลักในการดูแลเรื่องการระบายน้ำ แต่มีภารกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภค จึงอาจไม่มีงบประมาณในเรื่องการดูแลระบบระบายน้ำ ส่งผลทำให้การระบายน้ำของคลองส่วยไม่มีประสิทธิภาพ 

2. การแก้ไขปัญหาระบบท่อระบายน้ำบริเวณถนนสุขุมวิท ปากซอยแบริ่ง และ 3. การพัฒนาระบบการแจ้งเหตุพื้นที่น้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ  แต่การดำเนินงานที่ผ่านมา ยังคงมีปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการระบายน้ำในบริเวณดังกล่าว ประกอบกับในช่วงฤดูฝนนี้กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน จะมีฝนตกชุกหนาแน่น ประมาณร้อยละ 60 ถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่  

ดังนั้น เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว วันนี้จึงได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะอีกครั้ง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ กรมทางหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยา สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด และสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ฝนตกหนักในปี 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนศรีนครินทร์ ตามแนวถนนที่มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการเดินทางหนาแน่นระหว่างในเมืองและปริมณฑล  

โดยผลที่ประชุม สรุปความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังนี้ กรณีการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองส่วย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน  มอบหมายให้จังหวัดนนทบุรีเป็นหน่วยงานหลักในการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีมีสายสื่อสารและแนวท่อร้อยสายไฟ (Duct Bank) กีดขวางทางระบายน้ำตามแนวคลองส่วยบริเวณแยกพงษ์เพชร  และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการนำสายสื่อสารและแนวท่อร้อยสายไฟที่กีดขวางทางระบายน้ำออกไปโดยเร็วที่สุด

สำหรับระยะยาว หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีข้อเสนอแนะให้จังหวัดนนทบุรีผลักดันการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กรณีการดูแลและบำรุงรักษาคลองของการประปานครหลวง เพื่อให้หน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร หรือเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี สามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลและบำรุงรักษาคลองส่วยได้อย่างต่อเนื่องแล้วนั้น  ปัจจุบันได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลง ฯ ดังกล่าวแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทำแผนของบประมาณเพื่อดำเนินการบำรุงรักษาและนำสิ่งกีดขวางทางน้ำออกไปจากคลองส่วยโดยเร็วเพื่อให้ระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป 

พร้อมกันนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีก 9 ประเด็น  เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ฝนตกหนักในปี 2567 ในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนศรีนครินทร์ ประกอบด้วย 1. การกำหนดจุดเสี่ยงน้ำท่วม ในพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะและถนนศรีนครินทร์ตามแนวโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือทันต่อสถานการณ์ฝนตกหนักในปี 2567

2. การพยากรณ์อากาศและการเตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยาในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจ เฝ้าระวัง ติดตาม รายงานสภาวะอากาศ และปรากฏการณ์ธรรมชาติ มีขีดความสามารถในการพยากรณ์อากาศและเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมความพร้อมรับมือทันต่อสถานการณ์ฝนตกหนัก 3. การเตรียมระบบระบายน้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควรเร่งการเตรียมระดมระบบสูบน้ำติดตั้งในพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วม และบูรณาการร่วมกับฝ่ายสนับสนุนในการบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมขัง รวมทั้งมีแผนในการติดตั้งระบบสูบน้ำในสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างทันท่วงที

4. ระบบแจ้งเหตุขอรับความช่วยเหลือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีระบบที่ประชาชนสามารถแจ้งเหตุจราจรเพื่อขอรับความช่วยเหลือในสถานการณ์น้ำท่วมที่สะดวก รวดเร็ว รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงช่องทางการติดต่อดังกล่าวอย่างทั่วถึง 5. การอำนวยการจราจร สถานีตำรวจในพื้นที่ควรเตรียมความพร้อมในการจัดระบบ และจัดกำลังตำรวจจราจรหรืออาสาจราจรอำนวยการจราจรในช่วงสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วม เพื่อสามารถรับมือและช่วยเหลือด้านการจราจรให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางจราจรได้ในช่วงฝนตกหนักได้ทันท่วงที

6. การแต่งตั้งผู้ประสานงานแต่ละหน่วยงานในการรับมือแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วม ในแต่ละหน่วยงานควรมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในช่วงสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวกและสามารถ เป็นศูนย์ประสานงานแก้ไขในจุดพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังได้อย่างรวดเร็ว7. การจัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการบูรณาการร่วมเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที

8.การดูแลบำรุงรักษาคูคลอง หน่วยงานควรดำเนินการสำรวจ ขุดลอกคลองรับน้ำ รวมถึงการกำจัดวัชพืช เพื่อเป็นการเปิดทางน้ำไหล เพิ่มประสิทธิภาพการรองรับน้ำและระบายน้ำในคลองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 9. การคืนพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยควรเร่งคืนพื้นที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่เศษสิ่งก่อสร้างอาจกีดขวางการระบายน้ำ หรืออาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกรณีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขังผิวถนน