“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...
พลิกล็อกถล่มทลาย!! สำหรับสมรภูมิเดือดศึกสายเลือด ระหว่าง “พี่ทักษิณ” กับ “น้องแจ๊ส” ที่ปทุมธานี จบลงที่ฝ่ายพี่สามารถเฉือนชนะไปได้อย่างเฉียดฉิว ด้วยคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของ ชาญ พวงเพ็ชร์ กลุ่มปทุมรักไทย ภายใต้การสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยได้ 203,032 คะแนน ขณะที่ “บิ๊กแจ๊ส”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ไป 201,212คะแนน ...*...
แม้จะยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมีเรื่องร้องเรียนคาอยู่ แต่นาทีนี้ ก็สามารถเบรกกระแส “ทักษิณสิ้นมนต์ขลัง” จากผลพวงของศึก สว. ที่น้ำเงินกินแดง ลงได้ชั่วคราว แม้ปัจจัยและเงื่อนไขของการเลือกตั้งท้องถิ่น กับสนามใหญ่นั้นคนละปัจจัยกันก็ตาม และว่ากันว่า เบื้องหลังชัยชนะ ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายสูง โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเดิมพันทีเดียว …*…
แต่ขึ้นชื่อว่าชนะ ก็คือชนะ ไม่แปลก ที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะรีบเคลมผลการเลือกตั้งว่า “ทักษิณ” ยังไม่เสื่อมมนต์ขลัง “ถือเป็นการหักล้างคำสบประมาทว่ากระแสของพรรคเพื่อไทย ยังครองใจประชาชน ซึ่งคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขนที่สมศักดิ์ศรีและผลออกมาก็แสดงว่าพี่น้องทั้งจังหวัดทั้งจังหวัดยังให้ความชื่นชอบพรรคเพื่อไทย”…*…
แต่จะว่าไป ฝั่ง“บิ๊กแจ๊ส” เองก็ไม่เสียหายเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพราะแพ้เฉียดฉิว แต่คะแนนที่ได้ 2 แสนกว่าคะแนน โดยที่ไม่มีพรรคการเมืองประกาศสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ย่อมทำให้มีออร่าบารมี เข้าตาพรรคการเมืองสนามใหญ่แน่นอน แม้เจ้าตัวเปรยออกมาเบาๆ หลังพ่ายแพ้ ว่าจะไปตีกอล์ฟ “ไม่อยากจะเล่น(การเมือง)แล้วนะ” แต่ลูกชายก็ยังเป็นนายกเทศมนตรีอยู่...*...
ส่วนเรื่องที่ว่า สว. “จัดตั้ง” หรือ “สว.ฮั้ว” นั้น เรื่องนี้ ฟังจาก เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ฝากไว้ให้คิด “ผลคะแนนที่ออกมาทำให้เห็นได้ว่า ระบบกฎหมายมีปัญหา มีช่องโหว่ช่องว่างที่ทำให้เกิดการควบคุมการเลือก สว.ที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ที่มีผลกระทบกับการเลือก สว. ทั้งระบบ ซึ่งช่องโหว่และช่องว่างดังกล่าว เกิดผลลัพธ์จากผลการลงคะแนนเลือก ที่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนจากผลคะแนนที่ปรากฎว่ามาจากฝ่ายการเมืองเป็นผู้จัดการและแทรกแซง จนเห็นผลคะแนนว่าคนที่ได้รับเลือกมาจากฝ่ายการเมืองส่วนไหน อันทำให้การเลือก สว.เสียหายไปทั้งระแบบ ทำให้ผลคะแนนการเลือก สว.ที่ผ่านมาที่ลงคะแนนเป็น กลุ่มเป็นชุดๆ ไม่ได้มาตามธรรมชาติ ทำให้เห็นถึงการลงคะแนนที่ไม่สุจริต ไม่ถูกต้องและไม่เที่ยงธรรม แก่ผู้สมัครทั่วไป ทำให้ไม่ได้คนที่มีความรู้และประสบการณ์จากผู้สมัครด้วยเสียงส่วนใหญ่อย่างแท้จริง แต่ได้คนมาตามการสั่ง ได้มาจากคะแนนเสียงที่ไม่สุจริต อันทำให้ระบบการเลือก สว.ชำรุดเสียหายทั้งระบบ และในที่สุดทำให้บ้านเมืองเสียหาย ...*...
หลักฐานที่ชัดเจนนี้ แม้ไม่ใช่เรื่องการใช้เงินหรือให้ประโยชน์ตอบแทนที่ชัดเจน แต่ผลคะแนนที่ออกมาเป็นการฝืนสายตาและไม่เกรงใจประชาชน เป็นการกระทำที่ทำให้การได้มาซึ่ง สว. ไม่สุจริต ไม่ถูกต้อง และไม่เที่ยงธรรม สมควรที่ กกต.จะต้องพิจารณาโดยรอบครอบ เด็ดขาด กล้าหาญ และสั่งการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การเลือก สว.สุจริตและเที่ยงธรรมให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่บัญญัติไว้” ...*...
ที่มา:ศรพระราม (2/7/67)
