“โชเซ่น” จับมือ “M Mobility” ประกาศร่วมมืออย่างเป็นทางการผ่านการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนา EV Charging and Energy Management Ecosystem Platform ที่ทันสมัยและยั่งยืน ตั้งเป้าหมายในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะทำตลาดในประเทศไทย และทั่วโลก

วันที่ 28 มิ.ย.2024 ที่โรงแรม SC Park กทม.บริษัท โชเซ่น ดิจิตอล จำกัด (CHOSEN Digital Co.,Ltd.) และ M Mobility องค์กร EV ระดับโลกจากประเทศไต้หวัน ประกาศร่วมมืออย่างเป็นทางการผ่านการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนา EV Charging and Energy Management Ecosystem Platform ที่ทันสมัยและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะทำตลาดในประเทศไทย และทั่วโลก  โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองบริษัท ได้แก่ นายแจ็ค เฉิง (Mr. Jack Cheng) Chairman ของ M Mobility และนายวรพจน์ รื่นเริงวงศ์ CEO ของ บริษัท โชเซ่น ดิจิตอล จำกัด เข้าร่วมงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนจำนวนมาก

ทั้งนี้นายแจ็ค เฉิง กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “สโลแกนของเรา M Mobility คือ การทําให้การเดินทางของคุณยั่งยืนและน่ารื่นรมย์” เรามีความมุ่งหมายที่จะนำเสนอโซลูชั่นการเดินทางของผู้คนให้มีความรื่นรมย์และยั่งยืน ด้วยการบูรณาการนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น AI หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริการธุรกิจตามแพลตฟอร์ม MIH (Mobility In Harmony) องค์กร EV นานาชาติ ความร่วมมือระหว่าง M Mobility และ CHOSEN Digital จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนส่วนอื่น ๆ ในแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในท้ายที่สุด”

นายแจ๊ค เฉิง (Mr. Jack Cheng) ประธานของ M Mobility คือบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงมากในวงการรถ EV ของโลก และเคยสัมภาษณ์ลงสื่อหลักต่างๆทั่วโลก และเคยเป็นประธาน MIH (Mobility In Harmony) องค์กรผู้นำระดับโลกด้าน EV สนับสนุนโดย Foxconn และมีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำด้าน EV และเทคโนโลยีระดับโลกมากกว่า 73 ประเทศ โดย M Mobility มีหน้าที่ผลักดันเทคโนโลยีของ MIH สู่ตลาดโลก และยังเคยเป็นประธานของ Fiat และ Ford และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง รถ EV ยี่ห้อ NIO ซึ่งเป็นแบรนด์รถ EV จีน ที่ขายดีติดอันดับโลก จนเข้าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ที่อเมริกา และยังเป็นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Car จำนวนมากที่สุดในโลก และโด่งดังมากจากรุ่น EP9 ที่เป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก และ NIO ยังทำรถแข่งไฟฟ้าสูตร1 Formula E ได้แชมป์โลกอีกด้วย


ด้านนายวรพจน์ รื่นเริงวงศ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท CHOSEN กล่าวเสริมว่า "เราเชื่อมั่นในแนวโน้มการเติบโต ของ EV ทั่วโลก ซึ่งทาง M Mobility ก็เล็งเห็นโอกาสในตลาดอนาคตของ EV โลก ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแต่รถ แต่คือพลังงาน และเทคโนโลยีต่าง ๆ และได้เห็นถึงความสามารถของ CHOSEN ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติในประเทศไทยและระดับนานาชาติหลายรางวัล รวมถึงมีข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และพัฒนาระบบควบคุมพลังงานรถไฟฟ้า ให้กับ PEA การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ NT National Telecom จึงเลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยี และร่วมมือกับ CHOSEN เพื่อไปตอบสนองเทคโนโลยีตลาด EV ทั่วโลก เป็นการนำจุดเด่นของ CHOSEN คือความเชี่ยวชาญในด้านการชาร์จรถ EV และการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า ไปร่วมเสริมพลังกับ M Mobility ซึ่งในท้ายสุดจะนำไปสู่การพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้อย่างแท้จริง"

“แพลทฟอร์ม EV Charging and Energy Management Ecosystem ที่จะพัฒนาร่วมกันนี้ จะรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การจัดการพลังงาน และเทคโนโลยีการควบคุมพลังงาน ซึ่งจะเป็นการยกระดับการใช้และบริหารพลังงานอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศขณะนี้ นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการชาร์จที่ล้ำสมัยในอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ความร่วมมือครั้งนี้ยังมีบุคคลากรจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วม เช่น คุณ ธิดารัตน์ มัทราช Deputy Director Business Development Department การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA), ดร.ไพโรจน์ ลิขิตธนเศรษฐ์ Vice President - Management and Sale Support Department,National Telecom (NT) , และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ เข้าร่วมด้วย เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีแผนที่จะขยายความร่วมมือไปยังภาคส่วนอื่นๆอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการลงนามใน MOU ครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ไปสู่ตลาดโลก ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าที่จะเริ่มโครงการแรกภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ และคาดว่าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในปี 2025 โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาแพลทฟอร์มที่สามารถใช้ได้ในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายการตลาดของบริษัท CHOSEN และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมhttps://www.youtube.com/watch?v=UtHIBnlnwHg&ab_channel=CHOSENGroup