วันที่ 26 มิ.ย.2567 นายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวถึงการเลือกสว.ระดับประเทศ ว่า ตนไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกดังกล่าว เนื่องจากมองว่ากระบวนการเลือกนั้นถูกบิดเบือน มีการเกณฑ์ ขนคน และจ้างวาน จึงถือว่าเป็นการเลือกที่โมฆะ ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ดีก่อนหน้านั้นตนทำเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสว.ที่เป็นปัญหาใน 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ ตรัง อำนาจเจริญ และ ศรีสะเกษ พร้อมกับเอกสารที่เป็นหลักฐาน 300 หน้า  ส่วนกรณีที่พบว่าก่อนวันเลือกระดับประเทศ มีกระบวนการรวมกลุ่มสว. ล็อบบี้ และว่าจ้างนั้น ตนได้รับข้อมูลว่ามีการต่อรองราคาไปถึงหลักล้านบาท

“สิ่งที่กกต.ยังสามารถตรวจสอบในกรณีฮั้วเลือก สว. ได้ คือ ผู้สมัครที่ไม่ได้รับคะแนนใดๆ ในการเลือกระดับประเทศหรือศูนย์คะแนน โดยสามารถตรวจสอบและกันไว้เป็นพยานได้ ทั้งนี้ผมยืนยันว่าสิ่งที่ตรวจสอบนั้นไม่ต้องการเพื่อให้ได้อยู่ต่อ แต่ต้องการให้การได้มาซึ่ง สว.จากกลุ่มอาชีพนั้น เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่มีสว.เชี่ยวชาญตามวิชาชีพ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่าสำหรับการประกาศผลของการเลือกสว. กกต.ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะรีบประกาศ โดยตนเชื่อว่า ผู้ที่ได้รับเลือกอาจมีผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นสว. เพราะมีกรณีถือหุ้นสื่อหรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นกกต.ควรใช้ความรอบคอบ ไม่ควรรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลัง เพราะกกต.ไม่มีอำนาจ รวมไปถึงประสบการณ์การเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมาที่พบว่ามีการขอให้ระงับการประกาศผลเลือกสส. 71 เขต แต่กกต.ปล่อยไปก่อน แต่ไม่พบการสอยทีหลังแต่อย่างใด และมี สส.บางรายที่มีประเด็น กลับยังทำหน้าที่ในสภา