วันที่ 16 มิ.ย. 2567 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แจ้งวัฒนะ ภายหลังการเลือกวุฒิสภา (สว.) ครึ่งเช้า ตามกลุ่มอาชีพ หนึ่งในผู้สมัครที่ไม่ผ่านเข้ารอบได้แก่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
โดย พล.ต.นพ.เหรียญทอง เดินออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยท่าทียิ้มแย้ม ว่า ตนสามารถเลือกได้ 2 คะแนน แต่ไม่ได้ตัวเอง โดยตนเลือกรุ่นพี่ที่เป็นเภสัชกรและทันตแพทย์ที่รู้จักกันดีที่อยู่กองทัพเหมือนกัน ถ้าสมมติตนเลือกตัวเอง 1 คะแนน ก็จะได้จับสลากเพราะอยู่ใน 5 คะแนนแรก แต่ตนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น รักษาสัจจะ ถ้าให้เลือกตัวเอง คนอื่นจะไม่ได้ ซึ่งกลุ่มสาธารณสุข มีคนคะแนนเท่ากัน 4-5 คน โดยทุกคนอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แล้วตนจะไปจับสลากทำไม การที่ไปจับสลาก เราจะได้หรือไม่ก็ไม่รู้ ในเมื่อคนที่ได้จับสลากก็เป็นคนที่เหมาะสมทั้งหมด จะได้คนไหนก็โอเค ภาคบ่ายก็เป็นการเลือกไขว้ ไม่ได้มีอะไร
"ตามเจตนารมณ์ มาเพื่อเลือกเขา ไม่ใช่มาเพื่อให้เขาเลือก พี่ตั้งกติกาของพี่ไว้อยู่แล้ว ถ้าคะแนนเท่ากัน เราสละสิทธิ์ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา" พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นการหนีการถูกกล่าวหาว่าเป็น สว.จับสลากใช่หรือไม่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า ไม่ได้คิด พร้อมย้ำว่าเราศึกษาประวัติทุกคน ไม่ได้จะไปหนีอะไร
เมื่อถามว่ามั่นใจในสายสาธารณสุขของตัวเองหรือไม่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า ตนดูแล้ว ประวัติก็ดีทุกคน อันนี้เป็นเพียง กทม. ยังไม่ดูต่างจังหวัดเลย แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะเลวร้าย ทราบว่ามีดีๆ หลายคน กลุ่ม 4 สาธารณสุข เราไม่ได้เชียร์ว่าวิชาชีพนี้ล้ำเลิศ แต่กลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขเป็นบุคลากรที่มีคุณวุฒิที่เหมาะสม ทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร มีหลายคนที่อยากให้ได้แต่ก็ไม่ได้
ส่วนเรื่องการฮั้วการเลือก สว. พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า ตนคิดว่ามันยาก แต่ก่อนตนคิดว่าผู้สมัครที่มีคอนเน็คชันกับพรรคการเมืองจะได้เปรียบ แต่เมื่อมาสมัครก็พบว่าทำได้ยาก ต้องใช้ทรัพยากรเยอะ
"ผมไม่ได้มาโปร กกต. โปรกฎหมายนะ แต่ผมว่ามันยาก ถ้าจะเอาขนาดนั้นต้องใช้ทรัพยากรมาก ผู้ที่ผ่านเข้ามาก็อาจจะมีการตกลงกัน แต่เราก็ต้องปล่อยให้เป็นชะตาฟ้าลิขิตถ้าได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ เพราะฉะนั้นถามว่าฮั้วกันหรือไม่ พี่ว่าไม่ฮั้ว" พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าว
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวต่อว่า ในกลุ่ม 4 ถ้ามีผู้แสดงเจตนารมย์ว่าอยากรับใช้ชาติ อยากเป็นวุฒิสภา คนอาจจะเห็นว่ามีความมุ่งมั่นและเข้าท่า อย่าไปเรียกว่าฮั้ว เขาเรียกว่าเห็นด้วย ชอบอกชอบใจ มันก็เลือกกันได้ 2 คะแนน ในเมื่อเห็นว่า 2 คะแนน มีโอกาสเลือกคนอื่น 2 คน เราก็เลือก 2 คน
เมื่อถามว่าไม่เสียดายโอกาสเลยหรือ พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า ไม่เสียดาย เราก็คิดว่าเรามีความสามารถ แต่เราสามารถรับใช้ชาติในทุกบทบาท ตนเป็นทหาร ตอนที่ประจำการก็รับใช้ชาติในกองทัพ พอเกษียณออกมาก็รับใช้ชาติในฐานะปวงชนชาวไทยคนหนึ่ง การรับใช้ชาติในฐานะวุฒิสภาก็เป็นอีกบทบาทหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้เป็นแล้วเราจะรับใช้ชาติไม่ได้
"ไม่มีอะไรที่ต้องเสียดาย เรายังคิดว่าคนที่ผ่านเข้ารอบไป พี่ดูแต่ละท่าน เขาดีกว่าผมเยอะ บางทีผมก็เถื่อนไป เราก็ต้องดูสารรูปตัวเราเองด้วย จะไปหลงตัวเองว่าดัง ดังได้ก็ดับได้ ไม่เสียดาย มีงานต้องทำอีกเยอะแยะ"