เซลล์สาวร้องสายไหมต้องรอด ถูกชายชาวจีน บุกเข้ามาในรถ หวังที่จะชิงรถ ทำให้เกิดการต่อสู้ป้องกันตัว ก่อนร้องให้พลเมืองดีเข้าช่วย ผู้เสียหายกลัวเอาผิดผู้ก่อเหตุไม่ได้ และกลัวจะถูกดำเนินคดีกลับข้อหาทำร้ายร่างกาย
ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 14 มิ.ย. น.ส.วัชราภรณ์ อายุ 29 ปี อาชีพเซลล์ขายโคมไฟ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอให้ช่วยเหลือด้านคดี ที่ถูกใจชาวต่างชาติบุกเข้ามาในรถ หวังชิงรถ กังวลจะถูกดำเนินคดีกลับ ข้อหาทำร้ายร่างกายคนก่อเหตุ
น.ส.วัชราภรณ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะขับรถโตโยต้า รุ่นยาริส ทะเบียน 6 กย xxxx กรุงเทพมหานคร เพื่อไปพบลูกค้าที่บริษัทแห่งหนึ่งภายในซอยงามวงศ์วาน 47 ระหว่างกำลังเก็บของเพื่อลงจากรถ แต่ยังไม่ได้ดับเครื่อง มีชายแปลกหน้าอายุประมาณ 30 ปี ลักษณะเนื้อตัวมอมแมม มีกลิ่นตัวเหม็น ฟันดำ เหมือนคนเร่ร่อน เดินมาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ พร้อมตะโกนไล่ตนให้ออกจากรถโดยใช้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนสลับไปมา ตนปฏิเสธ ผู้ก่อเหตุจึงเข้ามานั่งภายในรถ พยายามจะฉุดกระชากกุญแจรถออก แต่ตนพยายามต่อสู้ ขัดขวาง ก่อนร้องเรียกให้คนในละแวกนั้นมาช่วย ผู้ก่อเหตุพยายามจะเข้าไปทำร้ายคนที่มาช่วย แต่โดนรวบไว้ได้ก่อน ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ทุ่งสองห้อง ให้มาดำเนินการจับตัว
น.ส.วัชราภรณ์กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บบริเวณระหว่างคิ้ว ตนไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บตอนไหนและระหว่างที่ต่อสู้กันในรถตนยืนยันว่า ตนไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนเกรงว่าจะไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ และผู้ก่อเหตุมีบาดแผล ตนกลัวว่าจะถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ตำรวจจึงให้ไปนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ขณะนี้ผู้ต้องหาได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจึงไม่สามารถดำเนินคดีได้
ด้านนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เบื้องต้นทีมงานจะประสานไปที่ ผกก.สน. ทุ่งสองห้อง ให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบในเรื่องของคดี เนื่องจากหากผู้เสียหายโดนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจะเป็นเรื่องแปลก และจะมีการให้ตรวจสอบวีซ่าและประวัติผู้ก่อเหตุว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือไม่