นายกฯ สั่งการพัฒนาภาคธุรกิจไทยต่อเนื่อง สร้างโอกาสทางการตลาดผ่านงานมหกรรมรวมพลัง SME ไทย: Thailand SME Synergy Expo 2024 เชื่อมั่นเป็นอีกโอกาสสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทย ตั้งเป้าเพิ่ม GDP ประเทศจาก MSME หลังงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ประสบความสำเร็จสร้างมูลค่าการซื้อขายรวม 9 หมื่นล้านบาท

วันนี้ (13 มิถุนายน 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งสร้างขีดความสามารถให้กับภาคธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เกิดการเติบโต ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดการขยายตัวของ GDP ประเทศ ที่ 3% ในปี 2567 รวมทั้งเพิ่มสัดส่วน GDP ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (Micro, Small and Medium Enterprises: MSME) ของไทยให้เป็น 40 % ในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยการจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ มหกรรมรวมพลัง SME ไทย : THAILAND SME Synergy Expo 2024 ระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 5-6 ชั้น LG

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยได้บูรณาการร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่านการจัดกิจกรรมด้านการตลาด อาทิ งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ซึ่งสิ้นสุดลงไปแล้วด้วยความสำเร็จ สร้างมูลค่าการซื้อขายรวม 96,265.80 ล้านบาท เป็นมูลค่าการค้าในวันเจรจาธุรกิจ 96,041.41 ล้านบาท (มูลค่าการสั่งซื้อทันที 651.67 ล้านบาท และมูลค่าคาดการณ์ในการสั่งซื้อภายใน 1 ปี 95,389.74 ล้านบาท) ส่วนมูลค่าการค้าในวันจำหน่ายปลีก รวมทั้งสิ้น 224.39 ล้านบาท ซึ่งจากมูลค่าการค้าที่เกิดขึ้นในงานทั้งหมด เป็นมูลค่าการค้าของผู้ประกอบการไทย 71,359.86 ล้านบาท สำหรับประเทศที่มีการสั่งซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย และหมวดสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด คือ อาหารสำเร็จรูป ขนมและของขบเคี้ยว เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง และอาหารทะเล ผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมแสดงสินค้าจาก 52 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมด 3,133 บริษัท (บริษัทต่างประเทศ 2,024 บริษัท และบริษัทไทย 1,109 บริษัท) รวมทั้งสิ้น 6,238 คูหา ในส่วนผู้เข้าชมงานมีจำนวน 138,508 คน เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 85,850 คน (ชาวต่างประเทศ 19,984 คน และชาวไทย 65,866 คน) ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการเน้นย้ำความสามารถและศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางทางด้านอาหาร (Agriculture & Food Hub) ที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 19-23 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 5-6 ชั้น LG กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมมือกับกองทัพภาคที่ 1 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 (กอ.รมน.ภาค 1) คัดเลือกสินค้าชุมชนที่อยู่ในการส่งเสริมของกอ.รมน.ภาค 1 ใน 26 จังหวัดทั้งหมด 125 รายการ มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมรวมพลัง SME ไทย: Thailand SME Synergy Expo 2024 ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางการตลาดผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย พัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าและผลักดันการส่งออกไปยังต่างประเทศ ตลอดจนกระจายรายได้ให้ท้องถิ่นมากขึ้น

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ที่ผนึกกำลังเสริมสร้างความเข้มแข็ง ติดอาวุธ ยกระดับขีดความสามารถให้กับภาคธุรกิจไทย เชื่อมั่นว่าการสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนี้ จะเป็นการเปิดเวที เพิ่มประสบการณ์ให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอสินค้าศักยภาพและเจรจาต่อยอดขยายธุรกิจ เพิ่มโอกาสความมั่นคง เจริญเติบโต ส่งเสริมให้ GDP ไทยเติบโต” นายชัย กล่าว