เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 เวลา 17.30 น. ที่ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลองเจ็ด) ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานงานเลี้ยงฉลองบวชนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ โดยมีนักการเมืองผู้นำท้องถิ่นและประชาชนให้การตอนรับจำนวนมาก
บรรยากาศภายในงานมีคนเสื้อแดงเดินทางมารอพบ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางมาเป็นประธานงานเลี้ยงฉลองบวชลูกชายนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยการปรากฎตัวของนายทักษิณ ถือเป็นการออกงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 10 วัน หลังจากที่นายทักษิณ เลื่อนวันรายงานตัวกรณีอัยการนัดฟังคำสั่งคดี ม.112 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หายป่วยแล้วอาการไม่หนักแต่กลัวจะไปติดคน 18 มิ.ย. เค้านัดก็ไป ครั้งแรกเขาเลื่อนไปเอง ครั้งที่สองเขานัดแต่เป็นเพราะว่าตนเองป่วยติดโควิดจึงขอเลื่อน คดีนี้ไม่มีอะไรเลย ครั้งนี้จะเป็นคดีตัวอย่างที่เห็นว่าเวลาปฏิวัติแล้วยัดข้อหาอย่างไร เป็นคดีที่ไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียว พยายามตีความให้มีมูลแล้วพอคนหนึ่งสั่งฟ้อง คนอื่นก็เลยไม่กล้าสั่งไม่ฟ้องก็เลยสั่งฟ้องไป ไม่ใช้หลักกฎหมายในการพิจารณา ไม่ห่วงเรื่องจะไม่ให้ประกันตัว เพราะคดีแทบไม่มีมูล เปรียบเหมือนเป็นผลไม้ที่มีพิษจากต้นไม้ที่เป็นพิษ เริ่มแต่ทำคดีแต่ต้นด้วยการข่มขู่พนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา ในไลน์กลุ่มได้มีการออกมาพูดความจริงกันหมด ส่วนเรื่องคดี นายกฯเศรษฐา ที่ สว.ยื่นหนังสือกับศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก็ต้องดูว่า แต่เริ่มต้นว่า 40 คนนี้เคลื่อนไหวเพื่ออะไร คดีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับรัฐบาลเพราะรัฐบาลน่าจะตอบได้ หลักของกฎหมายเค้าจะดูเจตนาว่าหากเจตนาไม่บริสุทธิ์ก็จะถูกลงโทษการที่มีเจตนาบริสุทธิ์ด้วยหลักกฎหมายแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตนไม่เคยดิวกับใครมีแต่ดิวกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ถ้ามีปัญหาก็มีแต่คนที่บ้านอยู่ในป่าเท่านั้นที่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใช่ลุงป้อมหรือเปล่า นายทักษิณ ตอบว่า "ไม่รู้ มีใครบ้างอยู่ในป่าบ้างผมไม่รู้ บ้านเมืองมันถึงเวลาที่จะต้องสงบสุขได้แล้ว สื่อมวลชนเองก็ทางการเมืองก็ให้เบาเบาได้แล้ว บ้านเมืองจะได้เดินหน้าขึ้น เพราะวันนี้ปัญหาบ้านเมืองมันยากกว่าตอนที่ผมมาเป็นนายกฯ และระบบราชการก็เปลี่ยนมานาน ที่มางานวันนี้มาทำหน้าที่เพราะนาคเป็นน้องชาย สส. เขาเชิญหัวหน้าพรรคกับผมก็เลยมา"