สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดีย ซึ่งเป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 640 ล้านคน ปรากฏว่า พรรคภารติยะชนะตะ หรือบีเจพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลภายใต้การนำของนายนเรนทรา โมทิ นายกรัฐมนตรี ได้รับชัยชนะ เหนือกลุ่มพรรคฝ่ายค้านที่จับมือเป็นพันธมิตรประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค โดยพรรคเจบีพี ได้จำนวน สส. 240 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน ได้จำนวน สส. 232 ที่นั่ง ส่งผลให้นายนเรนทรา โมทิ ได้บริหารประเทศต่อในฐานะนายกรัฐมนตรีอินเดียสมัยที่ 3

อย่างไรก็ตาม พรรคบีเจพี ไม่ได้ครองเสียงข้างมาก ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เนื่องจากได้จำนวนที่นั่ง สส.ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว โดยในครั้งนี้ได้ ส.ส.เพียง 240 ที่นั่งเท่านั้น น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่ได้ สส. จำนวน 303 ที่นั่ง ซึ่งจากการที่พรรคบีเจพีได้จำนวน สส.ดังกล่าว ทำให้มีเสียง สส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจากจำนวนสส.ทั้งสภา 543 ที่นั่ง ที่ต้องได้จำนวน สส. 272 ที่นั่ง ส่งผลให้พรรคบีเจพี ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลผสมกับบรรดาพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตร โดยมีรายงานว่า พรรครัฐบาลสามารถรวมเสียง สส.จากพรรคพันธมิตรอื่นๆ ได้จำนวน 293 ที่นั่ง

ทางด้านพรรคพันธมิตรฝ่ายค้านในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ สส.รวมกันจำนวน 232 ที่นั่ง โดยพรรคคองเกรส ได้ สส.99 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ได้ 52 ที่นั่ง พลิกความคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์ ที่แสดงทรรศนะว่า พรรคฝ่ายค้านจะได้ สส.ลดจำนวนลงในการเลือกตั้งครั้งนี้