เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 4 มิ.ย.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการศึกษานิรโทษกรรมเสร็จจะให้พรรคเพื่อไทยยกร่าง โดยมีเรื่องนิรโทษกรรม ม.112 ด้วยพรรคเพื่อไทยจะยกร่างหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจว่าจะเดินอย่างไร โดยขณะนี้อาจารย์ชูศักดิ์ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่จะตัดสินใจอย่างไรนั้นคงให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่า ม.112 จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ว่าจะเอาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างไร ต้องรอที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคว่าจะมีการนำเรื่องนี้เสนอหรือไม่ และจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามต่อว่าในฐานะที่นายภูมิธรรมมีประสบการณ์ทางด้านการเมือง หากจะเอา ม.112 เข้าไปจะทำให้มีปัญหาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีอดีตเรื่องนิรโทษกรรม นายภูมิธรรม เผยว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ แต่เป็นเรื่องที่ต้องดูว่าหากสถานการณ์เช่นนี้จะเป็นปัญหาแค่ไหน และจุดที่เป็นปัญหาอยู่ส่วนไหน จะแก้ไขอย่างไร อีกทั้งเรื่องนี้อยู่ในสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ก็ว่ากันไปเพราะมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองที่จะพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ฉันทานุมัติ ว่าจะเห็นพ้องต้องกันเป็นอย่างไร รวมถึงประชาชนกลุ่มต่างๆ ว่าจะรู้สึกอย่างไร หากตัดสินใจแล้วไม่มีปัญหากับประชาชนแต่ละภาคส่วน ทุกคนรับได้ทุกอย่างก็จบได้ แต่หากเป็นปัญหาที่หาข้อสรุปไม่ได้ ก็คงต้องใช้เวลาเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ส่วนที่บอกว่าควรจะทำในปีมหามงคลนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าเพิ่งก้าวล่วงตรงนั้น แต่เรารู้ว่าความเหมาะสมอย่างไรในทุกๆ เรื่อง
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนดำเนินคดีในเรื่อง ม.112 ด้วย จะทำให้ต้องคิดหรือไม่ว่าหากควรไปต่อจะถูกมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ นายภูมิธรรม เผยว่า ยังไม่ได้บอกว่าจะแก้หรือไม่ ส่วนประเด็นของนายทักษิณขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ หากจะคิดเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเรื่องของนายทักษิณ เป็นประเด็นหลัก แต่ให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของสังคมมากน้อยแค่ไหน หากเป็นปัญหามากก็ต้องดูว่ามากอยู่ที่ส่วนไหน และจะปรับเปลี่ยนได้อย่างไร ซึ่งยังไม่มีคำตอบในตอนนี้ เพราะยังหาข้อสรุปจากทุกพรรคการเมืองหรือทุกภาคส่วนไม่ได้ แต่สิ่งที่กังวลคือต้องให้เกิดฉันทานุมัติว่าจะเป็นอย่างไร ฉะนั้น เรื่องนี้หากทำไปโดยไม่เกิดฉันทานุมัติก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งเศรษฐกิจตอนนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นและแก้ปัญหากันอยู่แล้ว หากปล่อยให้เรื่องนี้บานปลายก็จะเป็นปัญหาต่อไป