“เพื่อไทย” เตรียมกลับมาจ้อสื่อทุกอาทิตย์ - แจงทุกประเด็น พร้อมหนุน “รบ.” ใช้แก้ปัญหาช่วย ปชช. ย้ำ งบฯ69  มีความสำคัญ ด้าน “รทสช.”เตรียมเคาะขุนพล สู้ศึกซักฟอกงบ 69 เน้นอภิปรายสร้างสรรค์ แนะ “ฝ่ายค้าน” ไม่ฉวยโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  69 ของพรรคว่า เราพยายามจะเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับประชาชนและสื่อให้มากขึ้น โดยทุกวันอาทิตย์ช่วงเช้าหากมีประเด็นการเมืองอะไร เราจะมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยในวันที่ 28 พ.ค.จะมีการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องงบประมาณและกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน

ด้านนายชนินทร์ กล่าวว่า ในวันที่ 28-31 พ.ค.นอกจากจะมีพิจารณางบประมาณแล้ว ยังมีกฎหมายที่สำคัญอีกหลายฉบับ เช่น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สองฉบับ คือ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีการบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเป็นการออกพ.ร.ก.แต่ต้องมีมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเร่งด่วน โดยหลังจากที่มีการประกาศใช้ไปแล้ว ก็พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีจำนวนลดลง และคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบ จากทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้าน

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการดำเนินนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนด้วยตั๋วร่วม ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่พรรคมีการหาเสียงไว้เพราะหากประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้หลายเรื่องทั้งเรื่องการจราจร การลดฝุ่นพิษในพื้นที่เมืองและการขยายตัวในพื้นที่เมืองไปตามพื้นที่ที่ขนส่งสาธารณะไปถึงได้ ซึ่งเราตั้งใจมาตลอดที่อยากให้ประชาชนเข้าถึงขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียมกันทุกคน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว..คมนาคม ก็ประกาศแล้วว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนก.ย.

"การจัดทำงบประมาณในครั้งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากกำลังเจอผลกระทบจากสถานการณ์ภายนอกที่ส่งผลต่อความมั่นคง ต่อเศรษฐกิจ หรือปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้น รัฐบาลต้องมีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาและงบประมาณก็เป็นเรื่องหนึ่งที่จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาราบรื่นลุล่วงไปด้วยดี ภายใต้สถานการณ์นี้โลกอาจจะเป็นสถานการณ์เปลี่ยนและการดำเนินงานนโยบายของรัฐบาลบางเรื่องอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัญหาทางเศรษฐกิจในประเทศ ยืนยันว่าการตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลเราจะให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นลำดับทานเหมือนเดิมแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง"นายชนินทร์ กล่าว

ด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของ ในการอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28-31 พฤษภาคม 2568 ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นัดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคนให้มาประชุมพร้อมกันในวันอังคารที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการกำหนดกรอบแนวทางการอภิปรายและการวางตัวผู้อภิปราย ทั้งนี้กรอบแนวทางของพรรคจะยังคงจุดยืนเดิม คือ การอภิปรายให้เห็นถึงการจัดสรรงบประมาณที่ต้องมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

นายอัครเดช กล่าวว่า จากการพิจารณาศึกษารายงานร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2569 ของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างเข้มข้นในขณะนี้ก็พบว่า ยังมีบางหน่วยงานที่จัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในแง่ทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ สส.พรรค ได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วเพื่อที่จะอภิปรายพร้อมให้ข้อเสนอกับรัฐบาลทั้งในการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2569 ที่เป็นชั้นรับหลักการ วาระแรกที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ และในวาระที่ 2 ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งจะมีการดำเนินการพิจารณาหลังการลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติในวาระแรก

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า สำหรับการอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2569  พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการจัดสรรเวลาในการอภิปรายรวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 25 นาที ซึ่งจะส่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีความเชี่ยวชาญและเจาะลึกเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเป็นอย่างดี เป็นตัวแทนพรรคในการอภิปราย โดยจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดมุ่งเน้นการอภิปรายให้ได้เนื้อหาที่กระชับ สร้างสรรค์ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างครบถ้วน รวมถึงการเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประเทศชาติเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกันตนฝากถึงฝ่ายค้านให้เข้าใจด้วยว่า เวทีการประชุมนี้เป็นการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2569 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดังนั้นจึงขอให้อภิปรายให้อยู่ในประเด็นและกรอบแนวทางที่วางไว้ ไม่ใช่การฉวยโอกาสใช้เวทีนี้มาเป็นการอภิปรายโจมตีรัฐบาลหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน ซึ่งนอกจากจะผิดข้อบังคับการประชุมสภาแล้ว ยังจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว และต่อพ่อแม่พี่น้องที่รับชมการถ่ายทอดสด ทั้งยังทำให้การประชุมอาจเกิดการประท้วง ทำให้เสียเวลาในการพิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์ของประเทศด้วย ส่วนที่แกนนำพรรคฝ่ายค้านบางคนเริ่มให้ข้อมูลว่าจะอภิปรายอย่างดุเดือดนั้น ตนไม่ติดใจในเรื่องนี้ เพราะอาจเป็นบุคลิกของแต่ละตน แต่ย้ำว่าขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็นเท่านั้น

“สิ่งสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2569 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ การทำให้งบประมาณได้รับการจัดสรรอย่างเหมาะสมและเกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการพิจารณาจะไม่มีการพูดเสียดสี การสร้างวาทกรรมทางการเมือง หรือการโจมตีรัฐบาลจากฝ่ายค้าน เพราะตลอดการอภิปรายพี่น้องประชาชนจะได้รับชมถ่ายทอดสดไปพร้อมกัน ซึ่งคาดหวังให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และขอฝากไปยังทุกฝ่ายให้มุ่งเน้นการให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ” นายอัครเดช กล่าว