“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” ...*...
หลังวันหยุดยาวเปิดทำการมา โฟกัสการเมืองจะเปลี่ยนมาอยู่ที่พรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นตายนัดสุดท้ายให้ยื่นคำชี้แจงคดียุบพรรค กรณีอันควรเชื่อว่า มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฯ 4 มิถุนายนนี้…*…
ในจังหวะที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดบ่วงคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติ จากปมแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ว่าจะตกเก้าอี้หรือไม่ หลังได้ กุนซือกระบี่มือหนึ่งอย่าง อ.วิษณุ เครืองาม มาอยู่ข้างกาย…*…
เมื่อมองมาที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แม้ยังมีชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล แต่น่าสนใจ หากจังหวะไทม์ไลน์คดียุบพรรคก้าวไกลออกมาเป็นลบ ที่พ่วงตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคของพรรคก้าวไกลนั้น กระทบ “พิธา” โดยตรง เกิดขึ้นก่อนตัดสินคดีของ “เศรษฐา” ก็เท่ากับกำจัด “พิธา” ออกจากกระดานเลือกนายกฯ คนใหม่ไปด้วย …*…
ขณะที่กระบวนการดึงเกมเลือกสว.ชุดใหม่ให้ลากยาวออกไปก็เริ่มปรากฎออกมา คู่ขนานไปกับการยื่นตีความการหมดวาระของสว.ชุดปัจจุบัน เหมือนกับรอเพื่อจะยกมือโหวต “ใครบางคน” เป็นนายกฯ …*…
ส่วนวันที่ 10 มิถุนายนจะครบกำหนด 15 วันที่ ศาลรัฐธรรมนูญให้เวลา “เศรษฐา” ชี้แจง ที่แม้ร่างแรกของคำชี้แจงจะเสร็จแล้ว แต่ ต้องจับตาว่า “เศรษฐา” จะใช้แทกติกในการขอเลื่อนการวินิจฉัยออกไปหรือไม่ ซึ่งการเลื่อนหรือไม่เลื่อนนั้น แน่นอนว่าจะถูกมองไปถึง “ดีลการเมือง” แม้เบื้องต้น เช็กลึกมาว่า อาจจะมีข่าวดี แต่การเมืองไทยนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ …*…
18 มิถุนายน คอการเมืองแทบไม่ได้พัก เพราะต้องลุ้นกันต่อ กับชะตากรรมของนายใหญ่ จะมาพบพนักงานตามนัดหรือไม่ อ่านสัญญาณ ทักษิณ ชินวัตร ส่งผ่าน “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หลังติดบ่วงคดีความผิดตามมาตรา 112 โยนบาปรัฐประหาร …*…
“ได้พูดคุยแล้ว จริงๆ คุณพ่อก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะคดีนี้เกิดขึ้นตอนที่มีปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอัยการสูงสุดในขณะนั้น ถูกแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายทักษิณยังบอกอีกว่า การขึ้นศาลก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้พูดถึงข้อเท็จจริงได้” และยังบอกด้วยว่า “เรื่องนี้เรามั่นใจว่าไม่มีทางที่จะโดนคดีนี้ และนายทักษิณบอกว่าดีที่จะได้ขึ้นศาลเพราะจะได้อธิบายข้อเท็จจริงไปเลย …คดีนี้ถูกฟ้องตอนปฏิวัติเสร็จใหม่ๆ และย้ำว่าอัยการสูงสุดแต่งตั้งโดยคสช. ฉะนั้น ก็พิจารณาเอาเอง”…*…
กระนั้น สัญญาณจาก “อุ๊งอิ๊งค์” ที่ส่งออกมาเป็นเพียงการลดกระแสสังคม หากแต่คดีนี้ ต้องไปว่ากันตามกฎหมาย ว่าการกระทำเข้าข่ายตามกฎหมายและเจตนา แต่ที่น่าลุ้นยิ่งกว่าก็คือ กระแสโซเชียลที่โหมกดดันศาล ให้ล็อกคอเข้าคุก ไม่ให้ประกันตัวนั่นแหละ …*…
ที่มา:ศรพระราม (04/06/67)