เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 29 พ.ค. 2567 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีมาตรา 112 ว่า ตนพูดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นคดีของตนเองที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็ให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม เรื่องรายละเอียดต่างๆผู้สื่อข่าวก็ทราบอยู่ว่า ตนไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย ต้องเคารพในระบบตุลาการด้วย ส่วนของนายทักษิณตอนนี้ก็เข้าสู่กระบวนยุติธรรมแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายจำเลยจะต้องไปชี้แจงให้ชัดเจน ก็ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ส่วนที่นายทักษิณติดโควิด ยังไม่ได้โทรศัพท์ไปหา เพราะตนยังติดภารกิจอยู่ที่ฮ่องกง ไม่ได้พูดคุยเลย

เมื่อถามว่า เป็นการบั่นทอนกำลังใจของคนในพรรคเพื่อไทย(พท.)หรือไม่นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบต้องไปถามคนในพรรคพท.ในส่วนของตนก็มีหน้าที่ทำงานต่อไป

เมื่อถามว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคพท. รัฐบาล และนายทักษิณ เป็นกลุ่มเดียวกัน เมื่อเกิดคดีนี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่กระทบ แต่หากถามว่าจะกระทบกับพรรคพท.หรือไม่ ต้องไปถามกันเอง แต่ในแง่ของบุคคลก็กระทบจิตใจของหัวหน้าพรรคพท. ซึ่งในแง่ของ พรรคการเมือง ในแง่ของรัฐบาล ในแง่ของนายทักษิณ ตนว่าแยกแยะกันชัดเจน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกฯ มีแผนลงพื้นที่ร่วมกับนายทักษิณ ต้องหยุดไว้ก่อนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต จะเป็นเมื่อไหร่ 1 หรือ 2 ปี ตนก็ไม่แน่ใจ ตนไม่ทราบ หากถามตนตั้งแต่ท่านออกมา และตนมาเป็นนายกฯ ไม่เคยมีการพูดคุยว่าจะมีการลงพื้นที่พร้อมกัน ต้องใช้คำนี้ว่า ไม่เคย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่านายทักษิณมีความประสงค์อย่างนั้นหรือเปล่า อยู่ดีๆจะไปทึกทักเอาเองว่านายทักษิณ อยากจะลงพื้นที่กับตนมันก็ไม่ถูก แต่ขอยืนยันได้ว่าตั้งแต่ท่านออกมา และตั้งแต่ตนมาเป็นนายกฯไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้