วันที่ 29 พ.ค.67 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เปิดเผยภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้าตรวจสอบรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ที่เข้าข่ายกระทำความผิดรุกล้ำที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ณ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ทหรูในพื้นที่จังหวัดสระบุรี เป็นการขับเคลื่อนการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ที่นายทุนรายใหญ่สวมสิทธิผิดกฎหมาย ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการยึดคืนที่ดินของรัฐที่อยู่ในมือของกลุ่มนายทุน คืนมาให้กับพี่น้องเกษตรกร ผู้ยากไร้ได้เข้าทำประโยชน์

โดยรีสอร์ทดังกล่าว ตั้งอยู่ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างในที่ดินและมีบางส่วนเข้าข่ายผิดระเบียบและหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก. ซึ่งภายหลังคณะทำงานฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยใช้กฎหมาย พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 23 พบว่ามีพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินบางส่วนไม่ได้ทำตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดิน ส.ป.ก. โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดสระบุรี (ส.ป.ก. สระบุรี) ได้ชี้แจงเบื้องต้นกับผู้ดูแลรีสอร์ท และจะทำหนังสือแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้รีสอร์ทปรับปรุงพื้นที่ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดที่ดินต่อไป จากนั้น คณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

สำหรับคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่งตั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 โดยมีหน้าที่และอำนาจให้คำปรึกษาและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับการถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยมิชอบ ตามที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมส่งมาเพื่อให้ความเห็นในการดำเนินการเกี่ยวกับความผิดที่เกี่ยวกับการถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส่งมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินคดีแพ่งและอาญาต่อไป ตลอดจนทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการสืบสวนสอบสวน ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ข้าราชการ หรือผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อพบการกระทำความผิดอาญา