เหล็กรูปพรรณเป็นวัสดุก่อสร้างที่ขาดไม่ได้ในงานโครงสร้างต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น "เหล็กไวด์แฟรงค์" และ "เหล็กไอบีม" ที่ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว แต่หลายคนยังสับสนว่าทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้คุณเข้าใจความแตกต่างของ เหล็กไวด์แฟรงค์ กับเหล็กไอบีม กันอย่างแจ่มแจ้ง
เหล็กไวด์แฟรงค์คืออะไร
เหล็กไวด์แฟรงค์ หรือเหล็กตัวเอช เป็นเหล็กรูปพรรณรูปตัว H ที่มีลักษณะเป็นคานหน้าตัดรูปตัว I โดยแผ่นเหล็กตรงกลางจะมีความกว้างกว่าปีกทั้ง 2 ข้าง เหล็กไวด์แฟรงค์จึงมีความแข็งแรงและมีความต้านทานแรงบิด (Torsional resistance) ที่ดีกว่าเหล็กตัวไอปกติ จึงเหมาะกับงานที่ต้องการรับน้ำหนักหรือแรงกระทำที่สูง
เหล็กไวด์แฟรงค์ใช้กับงานประเภทไหนบ้าง
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้เหล็กไวด์แฟรงค์เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับงานก่อสร้างหลากหลายประเภท เช่น
- โครงหลังคาอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีการรับน้ำหนักสูง
- เสาเข็มหรือเสาเหล็กขนาดใหญ่ในงานฐานราก
- ตอม่อหรือคานสะพานที่ต้องการความแข็งแกร่งสูง
- งานก่อสร้างอาคารสูงหรือตึกระฟ้า ที่มีการรับน้ำหนักในแนวดิ่งอย่างหนัก
- โครงสร้างเหล็กทนแรงสั่นสะเทือน เช่น เครน หรือฐานรางเดินเครื่องจักร
เหล็กไอบีมคืออะไร
เหล็กไอบีม หรือเหล็กตัวไอ จัดเป็นเหล็กรูปพรรณที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างทั่วไป โดยปีกด้านบนและด้านล่างจะมีความลาดเอียดเข้ามาแผ่นเหล็กตรงกลาง ปลายมีความโค้งมน เพื่อกระจายแรงกระแทก ทำให้เหล็กไอบีมสามารถใช้ในงานที่มีการกระแทกหรือมีการสั่นสะเทือนสูงได้
เหล็กไอบีมใช้กับงานประเภทไหนบ้าง
ด้วยความคุ้มค่าทั้งราคาและการใช้งาน ทำให้เหล็กไอบีมถูกเลือกใช้ในงานต่าง ๆ มากมาย เช่น
- โครงหลังคาบ้านพักอาศัยทั่วไปหรืออาคารขนาดใหญ่
- คานรับพื้นอาคารหรือพื้นชั้นลอย
- งานปรับปรุงต่อเติมหรือซ่อมแซมโครงสร้างเหล็กเดิม
- ตงหรือจันทันในหลังคาเพิงหมาแหงน
- รางเลื่อนของเครนในโรงงานอุตสาหกรรม
ความแตกต่างระหว่าง เหล็กไวด์แฟรงค์ กับ เหล็กไอบีม
จากที่กล่าวมา สามารถสรุปความแตกต่างของเหล็กทั้งสองประเภทนี้ได้ดังนี้
- เหล็กไวด์แฟรงค์มีส่วนปีกที่กว้างกว่าเหล็กไอบีม แต่ความสูงของคานน้อยกว่า
- เหล็กไวด์แฟรงค์จะแข็งแรงและทนทานกว่าเหล็กไอบีม เหมาะกับงานที่มีแรงกระทำสูง
- เหล็กไอบีมมีขนาดและน้ำหนักที่เบากว่า จึงนิยมใช้ในงานโครงสร้างทั่วไปหรือขนาดเล็กกว่า
- เหล็กไวด์แฟรงค์มีราคาที่สูงกว่าเหล็กไอบีม เพราะใช้วัสดุมากกว่าและมีความซับซ้อนในการผลิตกว่า
- เหล็กไวด์แฟรงค์มักเป็นตัวเลือกในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ส่วนเหล็กไอบีมเน้นความคุ้มค่ามากกว่า
การเลือกใช้ เหล็กไวด์แฟรงค์ หรือเหล็กไอบีม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งลักษณะของโครงสร้าง ความต้องการด้านความแข็งแรง งบประมาณ รวมถึงความซับซ้อนในการติดตั้ง โดยเหล็กไวด์แฟรงค์เหมาะกับงานที่ต้องการรับน้ำหนักสูงหรือความปลอดภัยเป็นหลัก ในขณะที่เหล็กไอบีมนั้นเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับงานโครงสร้างทั่วไปนั่นเอง