นครพนม เหิมหนัก ขบวนการค้า ยาเสพติด ข้ามชาติ อ.บ้านแพง ปิดล้อมหวังรุมทำร้าย เจ้าหน้าที่ นรข. ขณะเข้าสกัด ตรวจยึดเรือหางยาว ต้องสงสัย คาดขนกัญชา และยาเสพติด ยกพวกกว่า 30 คน ปิดล้อมรุมทำร้าย โวยอ้างคนทำมาหากินด่าข้าราชการขัดขวาง โชคดี จ่า นรข. ฝ่าวงล้อมหนีปลอดภัย บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ แฉเป็นเส้นทางขนกัญชา ยาบ้า โจรกรรมรถยนต์ ข้ามชาติ โดยเฉพาะกัญชา ชาวบ้านตามแนวชาย แดนฉวยโอกาส ลักลอบขนมาสวมสิทธิ์ ขายตลาดมืด สร้างรายได้ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ผบ.นรข.เขต นครพนม ประสานตำรวจ เร่งล่าตัวดำเนนคดีทั้งแก๊ง

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม  จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง พร้อมบัดดี้ คือ จ่าเอก วรพิทูร เดชาเสถียร อายุ 30 ปี ได้เข้าแจ้งความ ต่อ พ.ต.ต.ปุญวัตน์ สุริยกุล ณ อยุธยาสว.สอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อเร่งติดตามตัวแก๊งขบวนการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดน ที่พยามรุมทำร้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่ มาดำเนินคดี เพราะการกระทำดังกล่าว ถือว่าเย้ยกฎหมาย ไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ เชื่อว่า เป็นกลุ่มชาวบ้าน และเยาวชนในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดน พร้อมนำหลักฐานภาพคลิปเหตุการณ์ บางส่วน เป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี รวมถึงยืนยันกับสื่อมวลชน บันทึกโดย จ่าเอก วรพิทูร เดชาเสถียร อายุ 30 ปี กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อย ตามลำแม่น้ำโขง เขต นครพนม บันทึกเป็นหลักฐาน ขณะประสานกำลังเข้าช่วยเหลือ  จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง บัดดี้ลาดตระเวน ถูกแก๊งขบวนการ ค้าสิ่งผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นขบวนการค้ายาเสพติด ข้ามชาติ รวมกว่า 30 คน พยามยาม ปิดล้อม และเข้าประชิดตัวทำร้าย ร่างกาย  จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 หลังออกดักซุ่มริมน้ำโขง พบเรือหางยาว ต้องสงสัย บรรทุกกระสอบถุงดำ เต็มลำเรือ เตรียมจะเข้าจอดเทียบฝั่งน้ำโขง ในพื้นที่ บ้านดอนแพง หมู่ 7 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม

ทำให้ จ่าต๋อง วางแผน กับบัดดี้ เข้าแสดงตัวตรวจค้น บุคคลต้องสงสัย เป็นชาย ที่ยืนเคลียเส้นทาง ดูต้นทาง บนฝั่งน้ำโขง แต่หลังแสดงตน ชายผู้ต้องสงสัย ได้พยายามหลบหนี และยังโทรศัพท์ ประสาน เพื่อนร่วมแก๊ง ขับรถจักรยานยนต์ มานับ 10 คัน รวมถึง รถยนต์ อีก 1 คัน พยายาม เข้ามาปิดล้อม จ่าต๋อง ที่เข้าคุมตัว ชาย ผู้ต้องสงสัย และทำร้ายชกต่อย จ่าต๋อง 2 หมัด บริเวณหน้าออก ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ที่มาสมทบพยายามโวยวาย ด่าทอ ไม่พอใจ กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ขัดขวงการทำมาหากิน โชคดี  จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง ฝ่าวงล้อมออกมาได้ โดยมีบัดดี้ คอยดูต้นทางและประสาน กำลังสนับสนุนมาช่วยเหลือ ทำให้กลุ่มชายผู้ต้องสงสัย สลายตัวหนีไป  ส่วนการดำเนินคดีทางตำรวจกำลัง รวบรวมพยานหลักฐานติดตามผู้ก่อเหตุ และเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดี

เบื้องต้น จากคำบอกเล่า ของ จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง ผู้เสียหาย ระบุ ว่า ยอมรับปัจจุบัน ขบวนการค้ายาเสพติด รวมถึงกระทำผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดน อ.บ้านแพง รวมถึง ชายแดน จ.นครพนม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะ เส้นทางโจรรกรม รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ข้ามชาติ มีการละเลียงส่งข้ามไปยัง สปป.ลาว ตลอด ถึงแม้จะสกัดจับกุม ต่อเนื่อง แต่มีอุปสรรค เพราะเป็นพื้นที่ชายแดน ระยะทางยาวมาก ทำให้ฉวยโอกาสได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขนยาเสพติด กลับมาขายในพื้นที่ฝั่งไทยด้วย

ช่วงเกิดเหตุเนื่องจากมีรายงานอีกว่า จะมีการกระทำผิดกฎหมาย จึงไปซุ่มสกัดจับกุม ตรวจยึด ก่อนเกิดเหตุพบเรือหางยาว ต้องสงสัย มีการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายบางส่วนข้ามไปยัง สปป.ลาว คาดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ จึงเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่า มีการบรรทุกสิ่งของกระสอบถุงดำกลับมาเต็มลำเรือ ใกล้ถึงริมฝั่ง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ชายต้องสงสัย ยืนรอดูต้นทาง แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ มีท่าทางพิรุธ จึงพยามเข้าควบคุมตรวจค้น ทำให้เรือต้องสงสัย ขับหนีไปยังฝั่งลาว ส่วนบัดดี้อีกคน พยายามดูต้นทางประสาน กำลังมาสนับสนุน ขระเดียวกันชาวต้องสงสัย ได้ทำร้ายชกตน 2 หมัด บริเวณหน้าออก และมีการประสานเพื่อนร่วมแก๊ง รวมประมาณ 20 -30 คน มาปิดล้อม พยายามทำร้ายร่างกาย โชคดี ฝ่าวงล้อมออกมาได้ปลอดภัย หลังมีกำลังมาสนับสนุน แก๊งชายต้องสงสัย จึงสลายตัวหนี

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังระบุอีกว่า ปัจจุบันพื้นที่ชายแดน อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน มีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด กระทำผิดกฎหมาย ที่ฉวยโอกาสช่วงกฎหมายกัญชาเสรี มีการนำกัญชาช่อดอก จาก สปป.ลาว เข้ามาสวมสิทธิ์ ขายในฝั่งไทย รวมถึงนำเข้ามาขายเพื่อนำไปเสพ เนื่องจากบทลงโทษน้อย และสามารถเอาผิดได้ แค่กฎหมายศุลกากร ทำให้มีการพัฒนาการลักลอบขนส่ง จากที่เคยบรรจุแพคเกจ อัดแท่ง เป็นนำกัญชาช่อดอก บรรจุกระสอบปุ๋ย เข้ามาพักตามหมู่บ้านชายแดน และทยอยส่งขายพื้นที่ตลอนในตลาดมืด สร้างรายได้ จนเป็นขบวนการ และมีการเคลียเส้นทางเจ้าหน้าที่รัฐ บางหน่วยงานด้วย ทำให้ได้ใจ นอกจากนี้ ยังมีการนำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ โจรกรรม รถยนต์จากบ่อน จำนำ หนีไฟแนนซ์ ข้ามไปขายอีกด้วย โดยมีค่านายหน้าสูงคันละ 5,000 -10,000 บาท ทำให้ชาวบ้านบางกลุ่ม และเยาวชน เข้าร่วมขบวนการ หวังรายได้