ตำรวจ ปส. ถล่มเครือข่ายยานรก ยึดยาบ้ากว่า 46.88 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,408 กก. และคีตามีน 150 กก. รวบทั้งพระ นักบิน แก๊งส่งด่วน!
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.68 ณ บช.ปส. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขับเคลื่อน แผนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ภายใต้ชื่อ “NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด” อย่างเป็นรูปธรรมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเป็นหนึ่งในแผนสำคัญที่รัฐบาลได้ประกาศให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และภาคประชาชน ร่วมบูรณาการปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เพื่อยุติปัญหายาเสพติดในทุกระดับ
ผลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติในรอบเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค. 67 – 30 ก.ค. 68) เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ โดยมีการดำเนินคดี 210,780 คดี จับผู้ต้องหา 211,529 คน รวมทั้งจับตามหมายจับ 5,411 ราย พร้อมดำเนินคดีในข้อหาสมคบ สนับสนุน 3,122 คดี และข้อหาฟอกเงินอีก 235 คดี ของกลางที่ตรวจยึดได้มีปริมาณมหาศาล ได้แก่ ยาบ้า จำนวน 851.66 ล้านเม็ด, ไอซ์ 41,137 กิโลกรัม, เฮโรอีน 1,209 กิโลกรัม, คีตามีน 5,512 กิโลกรัม, ยาอี 286,726 เม็ด ขณะเดียวกัน ยังสามารถ ยึดอายัดทรัพย์จากขบวนการค้ายาเสพติดได้ถึง 12,417 ล้านบาท
นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเปิด “ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด” อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตั้งแต่ มิ.ย.67 ถึง ก.ค.68 จำนวนรวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง ผลจากการปฏิบัติการดังกล่าวสามารถปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายได้ 9,252 เครือข่าย, ตรวจค้นเป้าหมาย 33,242 จุด, ศาลอนุมัติหมายจับ 2,316 หมาย, ดำเนินคดี 61,420 คดี, จับกุมผู้ต้องหา 62,616 คน, จับตามหมายจับได้ 3,346 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมอีกจำนวนมหาศาล ประกอบด้วย อาวุธปืน 2,849 กระบอก, ยาบ้า 329,773,549 เม็ด, เฮโรอีน 1,432.53 กิโลกรัม, คีตามีน 1,926.77 กิโลกรัม, ไอซ์ 27,974.43 กิโลกรัม, ยาอี 108,259 เม็ด, มูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ 4,580 ล้านบาท
ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากนโยบายระดับสูงที่ขับเคลื่อนแบบบูรณาการ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่กำชับทุกหน่วยเร่งด่วนทำลายเครือข่ายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติของ บช.ปส.
นำโดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อม รอง ผบช. และ ผบก.ในสังกัด ที่ลงพื้นที่จริง ลุยสืบสวน สกัดจับ ขยายผล จนถึงยึดทรัพย์ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 1–30 ก.ค. 68 บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35,ป.ป.ส., ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, กรมการปกครอง และหน่วยข่าวกรองทางทหาร จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญได้ถึง 19 คดี ผู้ต้องหา 45 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 46.88 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,408 กิโลกรัม และ
คีตามีน 150 กิโลกรัม ดังนี้
บก.ปส.1 : บุกจับ “พระอาจารย์บี” ยึดยาบ้า 881,600 เม็ด ไอซ์ 12 กิโลกรัม
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการลับกลางกรุง บุกจับ “พระอาจารย์บี” หรือ นายบรรณวัฒน์ พระลูกวัดชื่อดังย่านพระประแดง จว.สมุทรปราการ หลังพบพฤติกรรมใช้ผ้าเหลืองบังหน้า คุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ส่งยาทั่วกรุงเทพฯ สืบเนื่องจากการจับกุม นายชัยวัฒน์ พร้อมยาบ้าเกือบ 16,000 เม็ด และไอซ์ 732 กรัม เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซัดทอดว่าเป็นเครือข่ายของพระอาจารย์บี เจ้าหน้าที่จึงให้สายลับนัดส่งยาล็อตใหญ่ 40,000 เม็ด ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ตรงข้าม รพ.ศิครินทร์ เขตบางนา เมื่อถึงจุดนัด พบ นายชูศักดิ์ ยืนอยู่ใกล้รถต้องสงสัย ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน 2 กด 4XX กทม. ตรวจค้นพบยาบ้า 780,000 เม็ด และไอซ์ 12 กก. ซุกซ่อนในรถ ผู้ต้องหารับว่าเป็นเพียงคนส่ง เจ้าของยาคือ "พระอาจารย์บี" จำวัดอยู่ที่โยธินประดิษฐ์ จว.สมุทรปราการ และสามารถจับกุมพระอาจารย์บี ได้ขณะซ้อนท้ายจักรยานยนต์ออกจากวัด ตรวจค้นกุฏิพบเครื่องชั่งดิจิตอล 2 เครื่อง และไปตรวจค้นห้องพักของนายชูศักดิ์ในซอยบางนา–ตราด 46 เมื่อตรวจสอบต่อ พบยาบ้าอีก 101,600 เม็ด รวมของกลางยาบ้า 881,600 เม็ด, ไอซ์ 12 กก., รถยนต์ 1 คัน, โทรศัพท์ 3 เครื่อง, เงินสดกว่า 2.7 ล้านบาท, รถ จยย. 2 คัน และของกลางอื่นรวม 11 รายการ ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก และอยู่ระหว่างขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ พร้อมตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
บก.ปส.2 จำนวน 3 คดี
คดีที่ 1 ไล่ล่ากลางดึก! จับ “ต่อ” ขนยาบ้า 2,906,000 เม็ด รถพลิกคว่ำที่โคราช
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 68 เวลาประมาณ 23.00 น. ตำรวจ บก.ปส.2 แกะรอยขบวนการลำเลียงยาบ้ารายใหญ่จาก จว.นครพนม มุ่งหน้าสู่ภาคกลาง โดยมีรถต้องสงสัย 2 คัน คือ โตโยต้า วีออส ทะเบียน ขษ 67xx นครราชสีมา ทำหน้าที่ขับนำทาง และมิตซูบิชิ สเปซวากอน ทะเบียน กจ 88xx นครราชสีมา เป็นรถลำเลียงยา กระทั่งเวลา 00.30 น. วันที่ 7 ก.ค.68 รถทั้งสองเคลื่อนเข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ M6 พื้นที่ อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา รถนำทางหลบหนีไปได้ ส่วนรถลำเลียงพยายามหลบหนี แต่เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณถนนชนบท 3158 ม.7 ต.พลกรัง อ.เมืองนครราชสีมา คนขับพยายามหนีแต่ถูกจับไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายเฉลิมเกียรติ หรือ “ต่อ” ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2,906,000 เม็ด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยู่ระหว่างขยายผลไปยังเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
คดีที่ 2 บุกจับแก๊งลำเลียงข้ามโขงถึงมือนักบินสุรินทร์ ยาบ้า 972,000 แสนเม็ด ปืน 2 กระบอก
ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 สนธิกำลัง บก.ขส. บุกสกัดขบวนการลำเลียงยาเสพติดข้ามโขงจากชายแดน อ.ธาตุพนม จว.นครพนม สู่พื้นที่ตอนในของประเทศ หลังแกะรอยพบว่าบ้านเลขที่ 184 ม.5 ต.แสนพัน ใช้เป็นจุดพักยา ก่อนทีมลำเลียงจาก จว.สุรินทร์ จะมารับต่อ กระทั่งเวลา 06.10 น. วันที่ 12 ก.ค. 68 พบรถกระบะตอนเดียว ทะเบียน บษ 97xx สุรินทร์ ขับออกจากบ้านต้องสงสัย ตำรวจติดตามถึงแยกโลตัสธาตุพนม ก่อนแสดงตัวตรวจค้นพบยาบ้า 972,000 เม็ด ซุกในกระสอบท้ายกระบะ พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายอชิระ(คนขับ) และนายดนัยโชค (โดยสาร) โดยนายอชิระรับว่ายาเสพติดรับมาจากนายสมร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปจับกุมนายสมรได้ที่บ้านหลังต้นทาง พร้อมนำทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3 จับแก๊งขนไอซ์ 300 กก. ซุกท้ายรถหรู บุกจับยกทีมกลางรีสอร์ต จว.เลย
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 68 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 สืบสวนพบขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง จว.นครพนม เตรียมลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ กระทั่งเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่สะกดรอยจนสามารถจับกุมนายไพรวัลย์ อายุ 40 ปี พร้อมรถยนต์เอนกประสงค์ ทะเบียน ขง 51xx พิษณุโลก บนถนนสาย 210 ม.14 ต.นากลาง อ.นากลาง จว.หนองบัวลำภู ตรวจค้นพบไอซ์ 300 กก. บรรจุในถุงชารูปหนู ซุกในกระสอบ 6 ใบ พร้อมกันนี้ ชุดจับกุมอีกชุดได้เข้าจับกุมนายอนุวัฒน์ อายุ 32 ปี และนายสุทธิราช อายุ 25 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทางและปิดท้ายขบวน ได้ที่หน้าห้องพักหมายเลข 222 สกุลปลั่งรีสอร์ต ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จว.เลย พร้อมรถกระบะทะเบียน บว 51xx กำแพงเพชร ตำรวจ ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
บก.ปส.3 จำนวน 7 คดี
ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด “ส่งด่วน ข้ามชาติ”
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน เม.ย. - พ.ค.68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ นปส.สุวรรณภูมิ กก.1 บก.ปส.3 ได้ทำการตรวจยึดพัสดุซุกซ่อนยาเสพติด (ไอซ์และเฮโรอีน) ก่อนส่งออกไปต่างประเทศจำนวนหลายคดี โดยการว่าจ้างเพจรับหิ้วของ จากการสืบสวนพบผู้ส่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์ภายในพื้นที่ จว.ตาก กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 จึงได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส., ตชด. และ ภ.6 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด “ส่งด่วน ข้ามชาติ” ระหว่างวันที่ 5 – 13 ก.ค.68 จำนวน 7 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.ตาก และเชียงใหม่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน 17 หมายจับ
คดีที่ 1 จับยาบ้า 11 ล้านเม็ดกลางด่านชุมพร ขยายผลถึงทุ่งสง รวบเพิ่มอีก 1 ราย
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 68 ตำรวจ นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับหน่วยข่าวกรองทางทหาร และ บก.ปส.4 สกัดจับรถบรรทุกสิบล้อที่ด่านตรวจยานพาหนะ จว.ชุมพร พบยาบ้า 11,000,000 เม็ด ซุกซ่อนท้ายกระบะ โดยจับผู้ต้องหาได้ 1 ราย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการตรวจยึดยาบ้า 13 ล้านเม็ดในพื้นที่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ เมื่อ 17 มิ.ย. 68 ก่อนขยายผลจนทราบว่าขบวนการลักลอบลำเลียงยาจากปทุมธานีลงใต้ หลังจากจับได้ที่ด่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลต่อเนื่อง จับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คนที่ปั๊มน้ำมันใน อ.ทุ่งสง จว.นครศรีธรรมราช และตรวจค้นบ้านเช่า พบยาบ้าอีก 11,000 เม็ดซุกอยู่ใต้เตียง ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายถูกส่งดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
คดีที่ 2 รวบคาตลาด! จับ 2 ผู้ต้องหา ขนไอซ์ 400 กก. ซุกช่องลับกระบะกลางเมืองเชียงราย
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 68 ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ นบ.ยส.35 จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางไอซ์ 400 กิโลกรัม ซุกซ่อนในช่องลับท้ายกระบะ บริเวณตลาดแห่งหนึ่ง ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจากคดียาบ้า 5 ล้านเม็ดที่จับได้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 14 มิ.ย. 68 ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย โดยเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจาก อ.แม่สรวย จนกระทั่งพบรถบรรทุกต้องสงสัยขับเข้าสู่ตัวเมือง ก่อนเลี้ยวเข้าตลาด เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น และพบช่องลับภายในกระบะบรรทุกซุกซ่อนไอซ์จำนวนมาก จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่ง บก.ปส.3 ดำเนินคดี และเตรียมขยายผลต่อถึงเครือข่ายในพื้นที่อื่น
คดีที่ 3 ไล่ล่าแก๊งชาติพันธุ์! ทิ้งกระบะหนี ทิ้งยาบ้า 1.2 ล้านเม็ดคาแม่จัน
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 เจ้าหน้าที่สืบสวนเฝ้าระวังเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ซึ่งมีพฤติกรรม ขนยาจากชายแดน อ.แม่สาย จว.เชียงราย มาซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ตอนใน จนกระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยขับลงมาจาก อ.แม่สาย ผ่านถนนพหลโยธิน มุ่งหน้า อ.แม่จัน ลักษณะบรรทุกหนักผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นบริเวณใต้สะพานลอย หน้า รร.แม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน จว.เชียงราย คนขับกับผู้โดยสารไหวตัวทัน เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีไปในความมืด ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 1,200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสาร เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามตัวผู้หลบหนีและขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
คดีที่ 4 บุกจับกลางลานแม็คโคร! ทลายแก๊งลำเลียงยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ซุกบนเซฟหลังคารถ
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ตอนใน จนพบรถต้องสงสัย 2 คัน ขับจาก จว.เชียงใหม่ มุ่งหน้า จว.สุโขทัย มีลักษณะขับนำ–ตามกันมา กระทั่งรถทั้งสองคันไปจอดที่ลานจอดห้างแม็คโคร จว.สุโขทัย และมีการส่งมอบรถบรรทุกยาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ขับรถเก๋งมารอรับ เพื่อเตรียมลำเลียงต่อไปยัง จว.นครปฐม เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 1,600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในเซฟบนหลังคารถกระบะ จึงจับกุมผู้ต้องหารวม 5 คน และนำของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ
คดีที่ 5 บุกโกดังกลางเพชรบูรณ์ ยึดยาบ้า 5 ล้านเม็ด จับชาย–หญิงเครือข่ายลำเลียงข้ามจังหวัด
เมื่อ วันที่ 24 ก.ค.68 เวลา 06.40 น. เจ้าหน้าที่ นปส.เพลินจิต กก.1 บก.ปส.3 สนธิกำลังบุกจับเครือข่ายลำเลียง ยาเสพติดรายใหญ่ ภายในโกดังเลขที่ 9/9 ม.1 ต.สะเดียง อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์ ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 5,010,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายชลัมพร อายุ 31 ปี และ น.ส.ธันยชนก อายุ 20 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จว.ปราจีนบุรี ถูกจับได้พร้อมรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 2กข 85XX กทม. และรถเก๋งซูซูกิ สีขาว ทะเบียน กพ 4XX ปราจีนบุรี ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบว่า กลุ่มเครือข่ายใช้เพชรบูรณ์เป็นจุดพักยาเสพติด ก่อนลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงเฝ้าติดตามกระทั่งพบรถของกลุ่มเป้าหมายเข้ามาในโกดังดังกล่าว เมื่อแสดงตัวเข้าตรวจค้น ชายไม่ทราบชื่อรีบล็อกโกดังและหลบหนีข้ามกำแพง เจ้าหน้าที่บางส่วนไล่ติดตามแต่ไม่พบตัว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวได้ภายในรถ และตรวจพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะจำนวนกว่า 5 ล้านเม็ด จึงแจ้งข้อหาหนัก ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวส่ง บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 6 ปส.บุกตรวจยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ดกลางพงหญ้า เครือข่ายลำเลียงข้ามชายแดนเชียงราย
เมื่อ วันที่ 24 ก.ค.68 เวลา 21.00 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สกัดกั้นยาเสพติดชายแดน ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 3,000,000 เม็ด (รวม 1,500 มัด) ได้บริเวณพงหญ้าข้างถนนโยธาธิการ ม.5 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดของ “นายเทพ” กับพวก ซึ่งลักลอบขนยาจากชายแดนเข้าพื้นที่ชั้นในของ จว.เชียงราย เพื่อรอส่งมอบให้ทีมลำเลียงอีกทอดหนึ่ง จนกระทั่งพบความเคลื่อนไหวของนายสุเทพฯ กับพวก นำยาบ้ามาพักไว้ในพื้นที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่ไม่พบตัว พบเพียงกระสอบบรรจุยาบ้าถูกซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าริมถนน ตำรวจทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง และขยายผลสู่เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามแดนต่อไป
บก.ปส.4 จำนวน 2 คดี
คดีที่ 1 สกัดแผนส่งยาข้ามภาค ยึดพัสดุ 28 กล่อง ยาบ้า 3 ล้านเม็ดจากเชียงใหม่ถึงพัทลุง-ตรัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.4 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายซึ่งลักลอบส่งยาเสพติดทางพัสดุ พบว่ามีการส่งพัสดุต้องสงสัยลงมายังภาคใต้ ต่อมาวันที่ 5 ก.ค.68 พบว่ามีพัสดุน่าเชื่อว่ามีสิ่งผิดกฎหมายบรรจุซุกซ่อนอยู่ ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน มาจาก จว.เชียงใหม่ ส่งมายังผู้รับพื้นที่ จว.พัทลุง จำนวน 16 กล่อง และส่งมายังผู้รับพื้นที่ จว.ตรัง จำนวน 12 กล่อง ต่อมาวันที่ 6 ก.ค.68 ได้เดินทางไปตรวจสอบ ในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ จว.พัทลุง ผลการตรวจสอบพัสดุ 16 กล่อง พบยาบ้า จำนวน 1,720,000 เม็ด และตรวจสอบในพื้นที่ อ.รัษฎา จว.ตรัง จำนวน 12 กล่อง ผลตรวจสอบ พบยาบ้าจำนวน 1,280,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่ง พงส.บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เครือข่าย “นักบิน ปากเกร็ด นนทบุรี ตากใบ นราธิวาส”
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 68 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.4 ร่วมกับ บก.ขส. สกัดจับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ หลังสืบพบการลักลอบลำเลียงไอซ์ลงภาคใต้ โดยใช้รถยนต์ 2 คัน คือรถทะเบียน ผค 93xxx ราชบุรี และ บว 34xxx สกลนคร ต่อมาเวลา 21.40 น. พบรถทั้งสองคันเคลื่อนผ่านพื้นที่ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร จึงวางกำลังรอบด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ต่อมารถกระบะทะเบียน บว 34xxx ขับผ่านด่านไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม ส่วนรถยนต์ ผค 93xxx ขับตามมาถึงเวลา 22.20 น. โดยมี นายถนอม เป็นคนขับ เมื่อเรียกตรวจค้น นายถนอมกลับเร่งเครื่องพุ่งชนด่านแล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ตามจับได้ริมถนนในพื้นที่ ต.ทรัพย์อนันต์ ก่อนตรวจพบไอซ์หนัก 201 กก. ซุกซ่อนในรถ ขณะเดียวกันอีกชุดสามารถจับกุม นายไกรเชษฐ และ นายวัฒนา ได้ที่ด่านปฐมพร พร้อมรถกระบะต้องสงสัย จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แจ้งข้อหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
บก.สกส.บช.ปส. จำนวน 6 คดี
คดีที่ 1 รวบแก๊งค้ายาเครือข่ายเหนือ–กลาง ยึดยาบ้า 8,319,400 เม็ด กลางถนนสายเอเชีย สิงห์บุรี
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.68 เวลา 18.00 น. ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส.บช.ปส., บก.ทล.บช.ก. ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 1 และทหาร ขกท.ศปก.ทบ. สนธิกำลังจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ บริเวณ กม.82+500 ถนนสายเอเชีย ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จว.สิงห์บุรี ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 8,319,400 เม็ด สืบเนื่องจากสายลับแจ้งเบาะแสว่า นายวิชัย กับพวก ลำเลียงยาบ้าจากชายแดนเชียงราย ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยใช้รถตู้ ทะเบียน นจ 33xx เชียงใหม่ และรถเก๋ง บร 89xx นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่สะกดรอยตามตั้งแต่เชียงราย ผ่านลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ กระทั่งเข้าสู่สิงห์บุรี ก่อนแสดงตัวตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถตู้ ส่วนรถเก๋งไม่พบของผิดกฎหมาย ตำรวจแจ้งข้อหา ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายต่อไป
คดีที่ 2 รวบ 2 ผู้ต้องหา ซุกไอซ์ 350 กก. ในเก๋งดำ ขนจากเหนือมุ่งสู่ภาคกลาง – โยงคดียาบ้า 2.5 ล้านเม็ด
เมื่อ วันที่ 15 ก.ค.68 เวลา 14.40 น. ตำรวจ บก.สกส., ตำรวจภูธรภาค 6 และทหาร ขกท. ศปก.ทบ. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมไอซ์ 350 กิโลกรัม ได้ที่ปั๊มน้ำมันใน ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จว.นครสวรรค์ สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. สืบสวนขยายผลจาก 2 คดีใหญ่ก่อนหน้านี้ คือ คดียาบ้า 2.5 ล้านเม็ด และไอซ์ 390 กก. พบว่าบุคคลในเครือข่ายยังมี ความเคลื่อนไหว จนได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการใช้รถเก๋งสีดำ ทะเบียน กธ 44xx พะเยา ขนยาเสพติดจาก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย มุ่งหน้าภาคกลาง จนพบรถต้องสงสัยที่ จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่สะกดรอยตามถึงปั๊มน้ำมัน ก่อนแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบไอซ์บรรจุกระสอบ ซุกในห้องโดยสารและท้ายรถ รวม 350 กก. ผู้ต้องหาคือ นายสุวัฒน์ (คนขับ) และ น.ส.ชนกพร (ผู้โดยสาร) เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาและควบคุมตัวทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ
คดีที่ 3 ทลายแก๊งค้ายาข้ามจังหวัด ยึดยาบ้า 2.5 ล้านเม็ดคารีสอร์ตเชียงราย
เมื่อ วันที่ 16 ก.ค.68 เวลา 08.20 น. ตำรวจ บก.สกส., ภ.6 และเจ้าหน้าที่ทหาร ขกท. ศปก.ทบ. สนธิกำลังบุกจับ แก๊งลำเลียงยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมยาบ้า 2,500,000 เม็ด ภายในโรงแรมหรรษารีสอร์ต ม.3 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง จว.เชียงราย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจากคดีไอซ์ 350 กก. เมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาขนาดใหญ่ที่ยังเคลื่อนไหว โดยสายลับแจ้งว่าผู้ต้องหาใช้รถยนต์เก๋งสีดำ ทะเบียน กธ 53xx พะเยา และ จยย.ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 9กง 95xx กทม. เข้าพักในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตามหารถต้องสงสัยจนพบทั้งสองคัน ก่อนเข้าตรวจค้นรถเก๋ง พบยาบ้า 2.5 ล้านเม็ด ซุกในห้องโดยสารและกระโปรงท้าย จับกุมนายกฤษฎา(คนขับ) นายชัชวาล(โดยสาร) และจากรถ จยย.จับนายกิตติพงษ์ (คนขับ) กับนายสมคิด(โดยสาร) เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
คดีที่ 4 ปส.ไล่ล่าข้ามจังหวัด! ยึดไอซ์ 145 กก. – เคตามีน 150 กก. แก๊งลำเลียงจากเลย
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 68 ตำรวจ บก.สกส. บช.ปส., บก.ทล. บช.ก. ร่วมกับทหาร ขกท. ศปก.ทบ. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 145 กก. และคีตามีน 150 กก. หลังสืบสวนขยายผลจากคดียาบ้า 6 ล้านเม็ด เมื่อ 17 มี.ค. 68 พบเครือข่ายยังเคลื่อนไหว ลำเลียงยาเสพติดจาก จว.เลย สู่ภาคกลาง ต่อมาเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของรถกระบะสีดำ 2 คัน ทะเบียน บธ xx15 ตาก และ บว xx15 พิษณุโลก เคลื่อนตัวจาก จว.เลย ผ่านเพชรบูรณ์ มุ่งหน้าสระบุรี ก่อนหลบเลี่ยงเส้นทางหลักไปตามถนนหมู่บ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถทะเบียน บว xx15 พิษณุโลก ได้ในพื้นที่ ต.หนองโดน อ.หนองโดน จว.สระบุรี พบนายสิทธิชาติ เป็นคนขับ ตรวจค้นพบไอซ์และคีตามีนรวม 295 กก. ส่วนรถอีกคันถูกสกัดที่ด่านตรวจ สภ.วังเจ้า จว.ตาก โดยจับกุมนายตู้ ผู้ขับขี่ได้อีกราย เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการในเครือข่าย
คดีที่ 5 จับแก๊ง “มังกร” ขนยาบ้า 4 ล้านเม็ด ลำเลียงจากเหนือสู่สุพรรณฯ
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 68 เวลา 13.40 น. ตำรวจ บก.สกส. บช.ปส. สนธิกำลังร่วมกับ ภ.6, ภ.7 และทหาร ขกท. ศปก.ทบ. จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,000,000 เม็ด บริเวณริมถนนหมายเลข 333 ม.21 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มนายมังกร กับพวก ลักลอบลำเลียงยาบ้าจาก จว.เชียงราย ลงสู่ภาคกลาง โดยใช้รถฟอร์จูนเนอร์ สีน้ำตาล ทะเบียน ขก xx97 ชลบุรี และรถกระบะ สีขาว ทะเบียน บร xx04 กาญจนบุรี เดินทางผ่านหลายจังหวัด กระทั่งเจ้าหน้าที่พบรถเป้าหมายในพื้นที่ จว.นครสวรรค์ ขับนำ-ตามกันมุ่งหน้า จว.สุพรรณบุรี จึงสะกดรอยติดตาม ก่อนแสดงตัวตรวจค้นรถฟอร์จูนเนอร์ พบยาบ้า 4 ล้านเม็ด และจับกุมนายมังกร กับนายอิทธิพล จากนั้นเรียกตรวจรถนำทาง จับกุมนายกิตติเดช และนายซู่ ได้เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมส่งของกลางทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเร่งขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
คดีที่ 6 ระทึก! ขนยาบ้า 2.5 ล้านเม็ดซิ่งชนรถตำรวจ ก่อนเสียหลักตกข้างทางที่สุโขทัย
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.68 ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. สนธิกำลังร่วมกับ ภ.6, ป.ป.ส.ภาค 1, ฝ่ายปกครอง และทหาร ขกท. ศปก.ทบ. จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้า 2,500,000 เม็ด หลังเฝ้าติดตามเครือข่ายของนายอารอฟัต ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ลงสู่พื้นที่ภาคกลาง เครือข่ายใช้รถยนต์ทะเบียน กล xx58 ลำปาง และ จยย. 2 คัน ขนยาผ่าน จว.พะเยา – แพร่ – ลำปาง – สุโขทัย – กำแพงเพชร – นครสวรรค์ กระทั่งพบรถเป้าหมายที่ อ.เถิน จว.ลำปาง มุ่งหน้า อ.ทุ่งเสลี่ยม จว.สุโขทัย และแยกตัวไปจอดที่วัดม่อนหินขาว ม.5 ต.ทุ่งเสลี่ยม เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่รถยนต์พยายามหลบหนีและขับชนรถเจ้าหน้าที่ ก่อนเสียหลักตกลงข้างทาง จับกุมนายอารอฟัต (คนขับ) และ น.ส.อัสมา (โดยสาร) ตรวจพบยาบ้า 2.5 ล้านเม็ดซุกซ่อนภายในรถ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาและนำตัวส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลต่อถึงผู้ร่วมขบวนการ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเดินหน้าขจัดภัยยาเสพติดให้หมดสิ้นจากสังคมไทย พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฝ้าระวัง โดยสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่สายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้บ้าน