บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด หรือ InterGOLD หนึ่งในผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของประเทศประสบการณ์ในวงการทองคำกว่า 70 ปี และผู้ให้บริการซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์มานานกว่า 13 ปี เดินหน้าต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจสู่กลุ่มนักลงทุนทองคำรายย่อยแบบเต็มสูบ ภายใต้แบรนด์ “โกลด์ทูโก บาย อินเตอร์โกลด์” (Gold2Go by InterGold) ภายหลังเปิดตัวแอพเป็นช่องทางใหม่ในการเทรดทอง-ออมทองออนไลน์ มานานกว่าสองปี ชูจุดแข็งการซื้อขายที่สะดวก รวดเร็ว เวลาซื้อขายครอบคลุมตลอด 24 ชม.ทุกวัน พร้อมเริ่มออมทองสะสมขั้นต่ำได้ตั้งแต่ยอด 100 บาทขึ้นไป ล่าสุด แบรนด์อินเตอร์โกลด์ ปูพรมลุยสร้างความเชื่อมั่น ตอกย้ำศักยภาพหนึ่งในผู้นำตลาดทองคำชั้นนำของไทย ในงานมหกรรมการเงิน กรุงเทพ ครั้งที่ 24 (Money Expo Bangkok 2024) ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกระแสตอบรับตลาดทองคำสุดคึกคักในปีนี้ ส่งยอดสมัครผู้ใช้แอพ “โกลด์ทูโก” พุ่งสูงขึ้น 5 เท่าในไตรมาสเดียว
นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากในปีนี้ราคาทองคำมีความผันผวนมาก ทำให้คนที่ปกติไม่ได้สนใจเรื่องราคาทอง หันมาสนใจกันมากขึ้น ไม่ได้เฉพาะของอินเตอร์โกลด์ เท่านั้น แต่รวมไปถึงทั้งตลาดทองคำเลย เหมือนเป็นการกระตุ้นให้คนหันมาสนใจเรื่องทองคำมากจริงๆ อย่างบริษัทอินเตอร์โกลด์ฯ อยู่ในวงการซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์มากว่า 13 ปีแล้ว แต่เราเพิ่งเปิดตัวแอพใหม่ Gold2Go สำหรับให้นักลงทุนซื้อ-ขายทอง ออมทองได้24 ชม.7วัน ไม่ต้องวางหลักประกัน ในราคาเริ่มต้นเบาๆตั้งแต่ 100 บาท มาได้ประมาณ 2 ปี แต่คนก็เข้ามาในช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมาเยอะมาก ถ้าคิดเป็นตัวเลขก็ไม่ต่ำกว่า 5-6 เท่า ของช่วงเวลาปกติ ทำให้เราตัดสินใจเข้าร่วมออกบูธในงานมันนี่ เอ็กซ์โปปีนี้ ซึ่งเป็นสมือนตลาดนัดทางการเงินการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทองคำอย่างใกล้ชิดทั้งมือใหม่และกลุ่มนักลงทุนทองคำมืออาชีพ โดยนำนักวิเคราะห์ทองคำและเทรดเดอร์มืออาชีพของบริษัท มาให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดตลอดงาน
ทั้งนี้ นายธีรรัฐ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้มาออกงานมันนี่ เอ็กซ์โป ได้มีคนเข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก มีทั้งคนที่เป็นมือใหม่ เพิ่งสนใจเรื่องทองคำ หรือคนที่เป็นนักลงทุนอยู่แล้วอยากลองหาที่กระจายความเสี่ยง ซึ่งก็ตรงตามวัตถุประสงค์ที่สร้างแอพโกล์ทูโกขึ้นมาให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือเก๋าทุกระดับอายุ สามารถซื้อ-ขาย-ออมทองคำได้ง่าย รวดเร็วจากทุกที่ตลอด24 ชม.ทุกวัน โดยได้วางแผนต่อเนื่องในการเข้าร่วมมหกรรมการเงิน มันนี่ เอ็กซ์โปที่จ.นครราชสีมา ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช ระหว่าง 9-11 ส.ค.นี้ด้วย
อย่างไรก็ดี นายธีรรัฐ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ราคาทองผันผวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ปกติ โดยธรรมชาติ ทองคำในระยะยาวเป็นขาขึ้นอยู่แล้ว แต่ในปีนี้ราคาทองคำขึ้นเร็วเกินไป จึงอยากจะเตือนให้นักลงทุนที่หวังจะเข้ามาทำกำไร ควรระมัดระวังไว้ด้วย
ด้าน นายเศรษฐวัชร์ พุทธทิพย์ เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์แห่งแบรนด์อินเตอร์ เทรดและโกล์ด ทู โก กล่าวว่า จากทองคำทำ ออล ไทม์ ไฮ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบัน มองว่า มีสาเหตุมาจาก 1.ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะ จีน-สหรัฐ, รัสเซียยูเครน, อิสลาเอล-อีหร่าน 2. เศรษฐกิจโลกไม่ดี 3. การดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลต่อเนื่องและรุนแรง ทั่วโลก และ 4. การคาดการณ์ของตลาดว่าดอกเบี้ยได้ถึงจุดสูงสุดไปแล้ว
โดยตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงตอนนี้ราคาทองทำนิว ไฮอยู่ที่ 42,000 บาท ก่อนจะมีสถานการณ์ความกังวลต่างๆ เกิดขึ้น ทำให้ราคาทองเกิดการย่อตัวอีกครั้งที่ราคา 40,000 บาท ซึ่งเป็นการย่อตัวเพียงไม่นาน ก่อนจะดีดราคากลับมาอยู่ที่ 41,000 บาท เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะลดอัตราดอกเบี้ย เรื่องที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงมาก แต่สุดท้าย เงินเฟ้อในสัปดาห์ที่ผ่านมา ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ คือ อัตราลดลง ทำให้ตลาดคลายความกังวลลงไประดับหนึ่ง และตอนนี้ ทองคำจะไปได้ต่อ ยืนระยะอาจจะทั้งปีนี้เลย ราคาทองคำอาจจะไหลขึ้นต่อได้เรื่อยๆ เลย จนถึงช่วงเดือน9 ที่ทางธนาคารกลางสหรัฐจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยต่อ
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุนทองคำในช่วงนี้ อาจจะตกใจที่เห็นราคาทอง 40,000++บาท แล้ว ในระยะยาว ทองคำอาจจะทำราคาขึ้นต่อไปอีก ถือเป็นการออมทองไป หากทองจะมีราคาลงต่อหลังจากนี้ แต่ก็ต้องทำใจไว้ว่า ราคาทองอาจจะค้างอยู่ที่ราคา 40,000 บาท เป็นฐานราคาใหม่ไปแล้ว น่าจะยืนระยะเรตนี้เป็นปี ทองคำยังถือเป็นทางเลือกแรกๆในการลงทุนที่น่าสนใจและมีเสถียรภาพที่ดีอยู่ จากปัจจัยสถานการณ์การเงินของโลกที่หนี้เสียค่อนข้างมาก วิกฤตเศรษฐกิจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นทองคำจึงเปรียบเสมือนการลงทุนที่ปลอดภัย ซึ่งการลงทุนในพอร์ททองคำปกติ อาจอยู่ที่ 20-30% แต่ ณ สถานการณ์ในปัจจุบัน อาจจะเอาเงินสดมารวมเข้าเลยก็ได้ ให้พอร์ทอยู่ที่ 50% อยากให้มองการลงทุนในทองคำเป็นเหมือนจุดพักเงินที่ดีและปลอดภัยมากกว่า เพื่อที่จะรอโอกาสสำหรับซื้อหุ้น หรือซื้อสินทรัพย์อื่นๆ ต่อไป