รอยสิวหรือการเกิดสีผิวไม่สม่ำเสมอบนใบหน้า สามารถเกิดขึ้นหลังจากสิวหาย มักทิ้งรอยของผิวหนังที่มีสีเข้มกว่าปกติ ฉะนั้นขั้นตอนการรักษารอยสิวจึงสำคัญ เพราะมีส่วนช่วยทำให้รอยสิว รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำจากสิวจางลงไวขึ้นได้

สาเหตุของรอยสิว
เมื่อบาดแผลจากสิวหายแล้ว มักจะผลิตเมลานินมากเกินไป ซึ่งทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้น ปัจจัยต่อไปนี้อาจทำให้จุดเหล่านี้รุนแรงขึ้น
การสัมผัสแสงแดด ซึ่งเพิ่มการผลิตเมลานิน
การคลึงหรือกดสิวซึ่งอาจทำให้สีคล้ำลึกขึ้น
การป้องกันรอยสิว

เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยสิว ควรปฎิบัติตามนี้

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ออกแบบสำหรับผิวบอบบางและไม่อุดตันรูขุมขน

ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ทุกวันเพื่อป้องกันรังสี UV ที่อาจทำให้จุดด่างมีสีเข้มขึ้น

10 วิธีการดูแลรักษารอยสิว ให้หายขาด

1. ล้างหน้าให้สะอาด
การล้างหน้าให้สะอาดเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ค่ะ เราควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยน้ำเปล่าสะอาด และใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของสิวให้ออกหมดจดค่ะ

2. ทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดด เราควรเลือกทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน ถึงแม้จะอยู่ในบ้านหรือในออฟฟิศ ผิวเจอกับแสงไฟ เราควรทากันแดดเพื่อป้องกันรอยสิวไม่ให้เข้มขึ้น ช่วยรักษารอยสิวให้จางไว

3. ทายาที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, หรือ Vitamin C
การเลือกยาทาลดรอยดำ เราสามารถเลือกยาที่มีส่วนผสมของที่มีกรด AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยสิว และรอยหมองคล้ำค่ะ หรือกรด BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดรอยสิว และมีส่วนผสมของ Vitamin C ที่จะช่วยมากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดรอยสิวให้ดูจางขึ้น

4. มาส์กหน้าด้วยว่านหางจระเข้
การมาส์กหน้าด้วยว่านหางจระเข้  ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ง่ายค่ะ เพราะในว่านหางจระเข้จะมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยสมานแผลค่ะ และรักษาความสมดุลของผิว ลดการอักเสบของผิวให้เย็นขึ้น  และยังช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยแดงจากสิวให้ดีขึ้นได้ด้วยค่ะ

5. งดการแกะ  เกา  หรือบีบสิว
สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดเลยคือการแกะ เกา หรือบีบสิวค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้สิวเกิดการอักเสบ จนทำให้เกิดรอยแผลเป็น และทำให้รอยสิวหายช้าลงไปอีกค่ะ

6. ทานอาหารที่มีประโยชน์
การทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ จะทำให้ร่างกายดีจากภายในสู่ภายนอกค่ะ และเน้นทาน ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูงๆ ก็จะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ทำให้ผิวพรรณสุขภาพดี และรอยสิวจางลงด้วยค่ะ

7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
เราควรดื่มน้ำวันละ 8-9 แก้วต่อวันค่ะ เพราะเป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับ และการดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก และช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง

8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูผิวเลยค่ะ เพราะในช่วงที่เราหลับนั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมเราควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อง 8-9 ชม ค่ะ

9. หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นควรหาเวลาผ่อนคลาย ลดความเครียดอย่างการเล่นโยคะ นั่งสมาธิก็สามารถทำให้จิตใจของเราผ่อนคลายขึ้นได้ค่ะ

10. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
แต่หากเพื่อนๆลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้ว รอยสิวยังไม่จางลง มีอาการอักเสบมากขึ้น หรือมีรอยแผลเป็น แนะนำควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล

แค่นี้เพื่อน ๆ ก็สามารถดูแลรอยสิวด้วยตัวเองได้แล้วค่ะ แต่สิ่งสำคัญในการรักษารอยสิวให้หายขาดนั้น  อาจต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ ความอดทนและควรทำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี แบบนี้รับรองเลยค่ะ ว่ารอยสิวหายขาดอย่างแน่นอน

อ้างอิง https://www.nivea.co.th/advice/luminous630-cure-existing-melasma-and-pre...