บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) โชว์ผลงาน Q1/67 กำไรสุทธิ 16.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.83% นิวไฮต่อเนื่อง  อานิสงส์ส่งมอบงานได้ตามกำหนด ฟากบอสใหญ่ “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” ลั่นพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหญ่ทั้งภาครัฐ-เอกชน เร่งขยายธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้-บล็อกเชนครบวงจร มั่นใจรายได้ปีนี้โต 35% จาก Backlog หนากว่า 2,065 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่

นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 16.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.26 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.83% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 11.46 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และมีรายได้รวม 337.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.99 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69.04% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวม 199.88 ล้านบาท

โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากธุรกิจจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย รวมทั้งรายได้ธุรกิจวิศวกรรมโยธาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมในส่วนของบริษัทย่อย

“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ของ TPS สามารถทำผลงานได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยส่งมอบงานขนาดใหญ่ให้ภาครัฐและภาคเอกชนได้ตามกำหนด ประกอบกับ บริษัท เดอะวิน เทเลคอมฯ บริษัทย่อย สามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง มีรายได้เพิ่มจากงานให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นายบุญสม กล่าว

สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ประเมินว่า ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 2,065 ล้านบาท คาดว่า จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดย TPS  และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567  และภาคเอกชนเริ่มทยอยลงทุนในโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น  โดยตั้งเป้าการเข้าประมูลงานใหม่ประมาณ 7,000 ล้านบาท และยังมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกหลายโครงการ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 44.48% และภาคเอกชน 55.52% 

ขณะเดียวกัน ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cyber Security) และบล็อกเชน (Blockchain) ให้บริการครอบคลุมในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมรุกขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อมุ่งสู่การเป็น เทค-คอมพานี (Tech company) อย่างครบวงจร จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนรายได้ในปีนี้เติบโต 35% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่