บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) โชว์ผลงานงวด 9 เดือนปี 66 มีกำไรสุทธิแตะ 73.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.45% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ส่งมอบงานขนาดใหญ่ได้ตามกำหนด ตุน Backlog หนากว่า 2,285 ล้านบาท ฟากซีอีโอ “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” ระบุ เดินหน้าประมูลงานใหญ่ทั้งภาครัฐ เอกชน เต็มสูบ พร้อมลุยขยายธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้-บล็อกเชนครบวงจร ดันผลงานปีนี้ออลไทม์ไฮ
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 73.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 57.06 ล้านบาท และมีรายได้รวม 913.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.34% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 655.96 ล้านบาท
ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 38.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 30.42 ล้านบาท และมีรายได้รวม 427.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.55% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 271.42 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากธุรกิจจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายและรายได้จากงานให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ
“ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปีนี้ TPS และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอมฯ บริษัทย่อย ยังสามารถทำผลงานเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง สามารถส่งมอบงานขนาดใหญ่ให้ภาครัฐและส่งมอบงานให้ภาคเอกชนได้ตามกำหนด พร้อมกับมีรายได้เพิ่มจากงานให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายอย่างต่อเนื่อง” นายบุญสม กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 ประเมินว่า ยังมีทิศทางที่ดี ปัจจุบันมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,285 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทฯ และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 58% และภาคเอกชน 42%
ขณะเดียวกัน ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cyber Security) และบล็อกเชน (Blockchain) ได้เร่งขยายการให้บริการครอบคลุมในกลุ่มลูกค้าเดิม และการรุกขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม เพื่อมุ่งสู่การเป็น เทค-คอมพานี (Tech company) อย่างครบวงจร มั่นใจว่า ผลงานในปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้ ทั้งในแง่รายได้ และกำไร