เมื่อวันที่ 3 พ.ค.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธุรกิจตลาดอาคารสำนักงานในไทยเริ่มคึกคักมากขึ้น จากนโยบายสนับสนุนของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายเปิดรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนการใช้ศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติและใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่โดดเด่นของภูมิภาค ซึ่งส่งผลให้ตลาดสำนักงานคึกคัก ต่างชาติตั้งสำนักงานในไทยเพิ่ม พร้อมรับข่าวดี ไมโครซอฟท์ประกาศตั้ง Data Center แห่งแรกในไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดสำนักงานมีแนวโน้มที่จะมีลูกค้าจากต่างชาติมากขึ้น โดยบริษัท IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ได้สำรวจพบว่า มีความต้องการตั้งสำนักงานในไทยเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยบริษัทข้ามชาติเล็งเห็นศักยภาพ และข้อได้เปรียบของไทยในการเป็นฐานตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคหลากหลายประการ ทั้งสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน คุณภาพแรงงาน อัตราค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสม ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และทักษะด้านดิจิทัลของบุคลากรไทย รวมถึงค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจด้านการให้เช่าตลาดอาคารสำนักงานในไทยเป็นอย่างมาก เกิดเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้เช่า ครอบคลุมถึงการจัดทำสัญญาเช่าเป็นระยะสั้นมากขึ้น การพัฒนาออกแบบสำนักงานที่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานมากขึ้น รวมถึงการขยายฐานไปยังกลุ่มผู้เช่าใหม่ผ่านการนำเสนอการให้เช่าพื้นที่แบบ Co-working Space
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้ง Data Center ระดับภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทยของไมโครซอฟท์ และการประกาศพร้อมร่วมพัฒนาศักยภาพ AI ร่วมกับไทย และภูมิภาค ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของไทย ต่อยอดถึงให้กับธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องและเห็นโอกาสในการเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการตั้งสำนักงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ บอร์ด BOI ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน Data Center ในไทยจากบริษัท เน็กซ์ ดีซี จำกัด ผู้ให้บริการ Data Center รายใหญ่ของออสเตรเลีย รวมถึง บริษัท ซีทีอาร์แอลเอส ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ Data Center รายใหญ่จากอินเดีย มาแล้วด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานต่างชาติที่สนใจมาตั้งสำนักงานในไทยเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น เข้าใจความต้องการ และพัฒนาแนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตในไทยและภูมิภาคต่อไป โดยปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติหลายประการ อาทิ อาทิ มาตรการวีซ่าพำนักระยะยาว (Long-term Resident Visa) และการปรับปรุงศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Stop Service) มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการผลิตและกิจการ International Business Center (IBC)
“นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความพร้อมและศักยภาพของไทยสะท้อนเป็นผลความสำเร็จที่ทำให้นักธุรกิจต่างชาติเลือกไทยเป็นที่ตั้งสำนักงาน พร้อมมองว่าการที่ไทยเป็นจุดหมายที่ตั้งของนักธุรกิจต่างชาติถือเป็นโอกาสทองของประเทศในการต่อยอดดึงดูดการลงทุนระดับภูมิภาคของบริษัทใหญ่ รวมทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจไทยได้ในระยะยาว” นายชัย กล่าว
#เศรษฐาทวีสิน #นักลงทุนต่างชาติ #ข่าววันนี้