“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...
อาฟเตอร์ช็อก! หลังปรับ ครม. เศรษฐา 1/1 โฟกัสที่การลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีต่างประเทศของ “เดอะตั๊ก” ปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัฐบาลเศรษฐา …*…
ต้องเข้าใจ “ปานปรีย์” นั้น ถือเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ put the right man on the right job มากที่สุดในรัฐบาลชุดนี้ ที่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประกาศจะเป็นเซลแมนประเทศ เพราะ “ปานปรีย์” นั้นเป็นอดีตผู้แทนการค้าและมีประสบการณ์ด้านต่างประเทศมายาวนาน …*…
การขยับ “ปานปรีย์” ลุกจากเก้าอี้รองนายกฯ ในขณะที่สถานการณ์ชายแดนลุกเป็นไฟ และสงครามในอีกซีกโลก การเหลือเพียงหมวกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเพียงตำแหน่งเดียว อาจทำให้ “การสั่งการ” กับกระทรวงต่างๆ อ่อนด้อยลง …*…
ในขณะที่รัฐบาลตั้งรองนายกฯเข้ามาเพิ่ม ทั้ง 2 คน คือ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เดิมนั่งควบรมว.คมนาคมอยู่แล้ว ได้เก้าอี้รองนายกฯเพิ่ม และ พิชัย ชุณหวชิระ รองนายกฯและ รมว.คลัง ที่เหลืออีก ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เมื่อกวาดตาไปแล้ว ใครกันที่จะมากุมบังเหียนทิศทางต่างประเทศให้กับ “ปานปรีย์” ฉะนั้น จึงต้องเลือกทางที่จะจากไป …*…
ส่วน “ทักษิณ” จะเลือกใช้ใคร หรือจะเป็นคนเก่าอย่าง นพดล ปัทมะ เข้ามาเสียบในเก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศหรือไม่ ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เดิมเป็นรองนายกฯ เพียงตำแหน่งเดียว แต่ได้ขยับเป็นเจ้ากระทรวงสาธารณสุขแทน งานนี้ ก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่อง “สมการการเมือง” ภายในพรรคเพื่อไทยล้วนๆ …*…
แต่ที่อหังการ และท้าทายที่สุด จาก ทักษิณ ชินวัตร คือ การส่ง พิชิต ชื่นบาน เข้าวินมาในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนได้ หากจำกันได้ “พิชิต” มีชื่อติดโผรัฐมนตรีตั้งแต่รอบแรกในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยฐานะทนายตระกูลชินวัตร แต่มาติดข้อครหา เรื่องจริยธรรม จึงได้ถอนตัวออกไปในรอบนั้น …*…
แม้รอบนี้ จะมีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทย พยายามส่งชื่อของ ชัยเกษม นิติสิริ มาสกัด แต่เอาไม่อยู่ ฉะนั้นจึงน่าสนใจว่า งานนี้ “ทักษิณ” เติมเต็มงานด้านกฎหมายของรัฐบาล ชนิดไม่สนเสียงนกเสียงกา …*…
เรียกว่า ปรับครม.เที่ยวนี้ ตอกย้ำ “โครงการทักษิณชนะ” เพราะแม้แต่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ยังโดนริบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนประชาชนไม่ได้อะไรเลย ได้แต่กรอกตา …*…
ที่มา:ศรพระราม (30/04/67)