วันที่ 18 เม.ย.67 นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมภริยา นำหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพะเยา ถวายเครื่องสักการะอนุสาวรีย์พญางำเมือง เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ( ปี๋ใหม่เมือง ) เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน ความเป็นสิริมงคลและสืบสานขนบประเพณีอันดีงามไว้ โดยมีรองผู้ว่าราชการ นายกเทศบาลเมืองพะเยาและหัวหน้าส่วนราชการต่างๆเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ณ ลานอนุสาวรีย์พญางำเมือง ชายกว๊านพะเยา
พิธีเริ่มด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จุดธูปเทียนบูชาเครื่องทองน้อย จากนั้นนำพานพุ่มดอกไม้สดถวายแด่อนุสาวรีย์พญางำเมือง หัวหน้าส่วนราชการเจ้าประจำจุดในพิธี นายเกรียงศักดิ์ แรกข้าว ครูภูมิปัญญาไทย ทำพิธีถวายเครื่องสักการะ จากนั้นผู้ว่าราชการฯ พร้อมนายกเหล่ากาชาดฯ ถวายมาลัยแด่อนุสาวรีย์พญางำเมือง ตามด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เป็นอันเสร็จพิธี
พญางำเมือง เป็นพระราชโอรสของพญามิ่งเมือง ประสูติในวันพฤหัสบดี ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ พ.ศ. 1781 ( จ.ศ. 600 ) เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา ได้ไปศึกษาเล่าเรียนพระเวทกับเทพฤๅษีตนหนึ่งที่ดอยด้วน เรียนอยู่ 2 ปี ครั้นพระชนมายุได้ 16 พรรษา ได้ไปศึกษาศิลปศาสตร์ในสำนักสุกทันตฤๅษี กรุงละโว้ (ลพบุรี) เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับพญามังราย และพ่อขุนรามคำแหง พระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย จึงสนิทสนมร่วมผูกไมตรี เป็นพระสหายตั้งแต่นั้นมา
ปี พ.ศ. 1801 (จ.ศ. 620) พญามิ่งเมืองสิ้นพระชนม์ จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแทน พญางำเมือง เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีอิทธิฤทธิ์มาก เมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน "แดดก่บ่ร้อน ฝนก่บ่รำ จักหื้อบดก่บด จักหื้อแดดก่แดด" จึงได้รับ พระนามว่า "งำเมือง" นอกจากนั้น พระองค์มีพระทัยหนักแน่นในศีลธรรม มีพระราชศรัทธา เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ไม่ชอบทำสงคราม ทรงดำเนินพระราโชบาย การปกครองบ้านเมือง ด้วยความเที่ยงธรรม พยายามผูกไมตรีจิตต่อเจ้าประเทศราชที่มีอำนาจเหนือคน เพื่อหลีกเลี่ยงภัยสงคราม จนทำให้อาณาประชาราษฎร์สงบ ร่มเย็นมาจวบจนทุกวันนี้