สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เสนาธิการแห่งกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือไอดีเอฟ ซึ่งเป็นกองทัพของอิสราเอล ประกาศว่าอิสราเอลจะตอบโต้กลับต่ออิหร่าน จากกรณีที่อิหร่านส่งโดรนติดอาวุธ และขีปนาวุธชนิดต่างๆ ทั้งวิถีโค้ง และแบบร่อน จำนวนรวมแล้ว 320 ลำ/ลูก โจมตีอิสราเอล แต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล ยิงสกัดกั้นได้ถึงร้อยละ 99 เมื่อช่วงก่อนรุ่งสางของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เสนาธิการแห่งกองกำลังไอดีเอฟ ไม่ได้เปิดเผยในรายยละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการตอบโต้กลับต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ การประกาศตอบโต้กลับต่ออิหร่านโดยเสนาธิการแห่งกองกำลังไอดีเอฟนั้น มีขึ้นท่ามกลางการรอคอยของประชาชนชาวอิสราเอล ที่ต้องการได้ยินคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลว่า รัฐบาลของเขาจะตอบโต้ต่ออิหร่านอย่างไร ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเรียกประชุมฉุกเฉินต่อคณะรัฐมนตรีภาวะสงครามเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาหาแนวทางตอบโต้ต่ออิหร่าน
ขณะเดียวกัน ทางด้านบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ อาทิ ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เป็นต้น ต่างออกมาเรียกร้องต่อทั้งอิสราเอลและอิหร่าน หลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นอีกซึ่งอาจจะลุกลามบานปลาย หลังอิหร่านส่งโดรนติดอาวุธและขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลข้างต้น เพื่อแก้แค้นที่อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย จนเจ้าหน้าที่ของอิหร่านเสียชีวิตไปหลายรายเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะประกาศว่าจะตอบโต้กลับต่ออิหร่าน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา