รมต.การค้าฟินแลนด์ บินมาร่วมเปิดตัวโรงงานผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ “ซาโลเทค” ในพื้นที่อีอีซี (ระยอง) เผย! เป็นครั้งแรกของรัฐวิสาหกิจไทยและฟินแลนด์ ที่ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทสร้างพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้าน “ซีอีโอ - Esa Areva” ประกาศหนุนไทยเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ย้ำ! พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 100 เมกกะวัตต์ ตามความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ ยอมรับแพงกว่า แต่ก็คุ้มค่ามากกว่า ที่สำคัญไม่ปิดบริษัทหนีเหมือนคู่แข่งบางประเทศ

          เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ที่โรงงาน บริษัท ซาโลเทค (ไทยแลนด์) จำกัด จ.ระยอง Mr. Ville Tavio รัฐมนตรีการค้าและการพัฒนาต่างประเทศ (Minister for Foreign Trade and Development) ประเทศฟินแลนด์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานซาโลเทค โดยมี คณะผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติในแวดวงธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมงานฯเป็นจำนวนมาก

          Mr. Esa Areva ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) Solar Finland Ltd. เปิดเผยว่า การดำเนินการจัดตั้งโรงงานซาโลเทคฯ ในประเทศไทยครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐวิสาหกิจไทย (PEA Encom International ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.) และรัฐวิสาหกิจจากฟินแลนด์ (Solar Finland Investment) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก FINNFUND ซึ่งเป็นกองทุนทางด้านการเงินขนาดใหญ่จากประเทศฟินแลนด์ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  

        ทั้งนี้ บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการลงทุน โดยมีเป้าหมายจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ภายใต้กำลังการผลิตสูงสุดปีละ 100 เมกะวัตต์

          สำหรับ แผงพลังงานแสงอาทิตย์ของซาโลเทค ได้ผ่านการศึกษาค้นคว้า วิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนได้แผนพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ประหยัดพลังงานได้มากกว่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้สูงกว่า โดยมีอายุการใช้งานราว 25 ปี ซึ่งต่างจากแบรนด์ของคู่แข่ง ที่ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานเพียงไม่เกิน 5 ปีเท่านั้น

          “ซาโลเทคเป็น เจ้าของนวัตกรรมการผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีสายงานการผลิตอัตโนมัติแห่งแรกและแห่งเดียวของโลก รองรับความต้องการขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่ใส่ใจในการจัดหา พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและติดตั้ง รวมถึงให้คำปรึกษาและให้บริการหลังการขายตลอดอายุสัญญาต่อกัน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคมโดยรวม ที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทตลอดมา” Mr. Esa Areva กล่าวและว่า

          บริษัทฯโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ภายใต้เงื่อนไขการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยไม่มีปัญหาติดขัดทางด้านกฎระเบียบและข้อกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถจะวางแผนขยายกำลังการผลิตตามปริมาณความต้องการของตลาดในภูมิภาคนี้ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี

          Mr. Esa Areva กล่าวว่า สินค้า (แผงพลังงานแสงอาทิตย์) ของบริษัทฯอาจจะแพงกว่าเมื่อเทียบราคากับคู่แข่งในตลาด แต่เราจะไม่ดำเนินนโยบายลดราคาแข่งขันกับพวกเขา เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าที่ให้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และที่สำคัญเราพร้อมรับผิดชอบในบริการหลังการขาย โดยไม่คิดจะปิดบริษัทหนีไป เหมือนที่คู่แข่งจากบางประเทศทำกันอย่างแน่นอน

          “หน่วยงานและบริษัทในประเทศไทย อาจต้องทดลองใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ของคู่แข่งที่มีราคาถูกกว่า แต่ก็จะพบปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคุณภาพของสินค้าที่ต่ำ ให้พลังงานได้น้อยกว่า มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า รวมถึงอาจไม่อยู่ดูแลลูกค้าหลังการขาย เหมือนที่เคยมีข่าวให้ได้ยินอยู่เสมอๆ ลูกค้าที่ประสบปัญหาดังกล่าวมาแล้วนั่นแหล่ะ จึงจะมองเห็นคุณค่าและหันมาใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์แบรนด์ซาโล เทคของเรา” Mr. Esa Areva กล่าวในที่สุด