วันที่ 25 มี.ค.67 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า...
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาทีถึงกรณีการเปิดอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา (สว.) เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ในวันนี้ ที่ผ่านมาตนมองว่าการพิจารณางบประมาณของสภาฯจะผ่านอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีงูเห่า ก็ไม่มีใครใช้งูเห่าในการคว่ำงบประมาณ เพราะรัฐบาลนั้นถึงแม้กฎหมายการเงินจะไม่ผ่านวาระสอง-สาม รัฐบาลก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นทำเกมการเมือง คนที่มีงูเห่าอยู่ในมือ หรือคนที่มีขั้วการเมืองที่มันเปลี่ยนไปแล้ว เขายังจะไม่ใช้ในเวลานี้
นายสามารถ กล่าวต่อว่า นายเศรษฐาผ่านงบประมาณมาแล้ว ถือเป็นด่านง่ายที่สุด เพราะในการอภิปรายงบประมาณในวาระที่ 2-3 นั้น จะไม่สามารถอภิปรายรัฐบาลไม่ได้ เพราะจะอภิปรายได้เฉพาะมาตราที่มีผู้แปรญัตติหรือมีการแก้ไขเท่านั้น แต่การอภิปรายของ สว.นั้นรัฐบาลให้เวลา 15 ชม.เป็นเวลาของส.ว. 11 ชั่วโมงครึ่ง ประธานวุฒิสภา 30 นาที และที่เหลือคือ รัฐบาลชี้แจง ซึ่งรัฐบาลจะผ่านเวทีนี้แน่นอน เพราะไม่มีการลงมติ แต่สิ่งที่สังคมจะได้ก็คือ รัฐบาลนี้มีความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไปหรือไม่ ถ้ารัฐบาลที่ใจ ๆ เขาจะให้เวลา 2 วัน แต่รัฐบาลของนายเศรษฐาไม่รู้ว่ากลัวอะไร เดินล็อบบี้ตลอดเวลา ล็อบบี้ฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ยังล็อบบี้ สว.ให้เวลาแค่ 15 ชม.แต่ผมมั่นใจว่า สว.ฝีปากกล้าอย่างนายสมชาย แสวงการ หรือนายเสรี สุวรรณภานนท์ จะอภิปรายเด็ดแน่นอน หนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของคุณทักษิณรวมถึงประเด็นยาบ้าห้าเม็ด และเงินดิจิทัล สว.คงทำการบ้านมาดี แต่ก็ยังล้มนายเศรษฐาไม่ได้
นายสามารถ ยังกล่าวต่อถึง โครงสร้างทางการเมืองเปลี่ยนแน่นอน อย่างพรรคภูมิใจไทยปรับกรรมการบริหารพรรคแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และรู้กันมานานแล้วว่าจะเหลือแค่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค แล้วเปลี่ยนคนอื่นเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด ซึ่งสอดรับกับที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ระบุว่า พรรคก้าวใหม่จะเป็นพรรคที่ สส.พรรคก้าวไกลจะย้ายไปสังกัด บริบททางการเมืองในเดือนมีนาคมที่จะสอดรับไปยังเดือนเมษายนมันเข้มงวดตลอดเวลา สิ่งที่ตนทำนายไว้ว่า จะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีจะต้องเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม ถ้าจะใช้ สว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น สว.จะหมดอายุวันที่ 11 พ.ค.แต่ในบทเฉพาะกาลมาตรา 272 นั้น การเลือกนายกฯครั้งแรกเกิดวันที่ 24 พ.ค.62 ฉะนั้นถ้า สว.จะหมดสิทธิก็น่าจะเป็นวันที่ 24 พ.ค.67
”แต่ถ้าคนที่เขารวมเสียงได้ และต้องการล้มนายเศรษฐาจะต้องเหตุอันเป็นไปกับนายเศรษฐา แต่ ณ เวลานี้ จนถึงวันที่ 3-4 เมษายน ฝ่ายค้านจะอภิปรายอย่างดุเดือดแล้วผมบอกว่า ถ้านายเศรษฐายังไม่มีความละอายที่จะลาออกก็จะมีกลไกให้นายเศรษฐาลาออกหรือไม่ บทบาทของคุณทักษิณที่เดินตอนนี้ ที่จะเข้าพรรคเพื่อไทย และให้คนเข้าไปชี้แจง ในเรื่องของการครอบงำพรรคมีคนไปร้องอย่างแน่นอน ซึ่ง กกต.จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าคุณทักษิณจะไปเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อให้เกิดการร้องเรียนเป็นหมากหนึ่งในการปลดนายเศรษฐาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ต้องจับตาดูแบบตาไม่กระพริบ“