วันที่ 18 มี.ค. 2567 ที่มณฑลทหารบกที่ 34 ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช อ.เมือง จ.พะเยา นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงถึงกรณี ที่ช่วงนี้ พบทหาร ถือปืนขู่ คู่กรณี และยิงวัยรุ่นจนเป็นเหตุบาดเจ็บ หลายกรณี ว่า เรากำลังพูดคุยหารือกัน อันนี้จะเป็นเรื่องของบุคคล อันดับแรก ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา กวดขันเรื่องวินัยก่อน หากกวดขันเรื่องวินัยให้ดีๆ เขาก็จะไม่มีโอกาสไปก่อเหตุ ถึงมีปืนครอบครอง ก็ไม่ก่อเหตุเพราะฉะนั้นเราจี้ลงไปที่ผู้บังคับบัญชา แต่เมื่อหากมีการเสนอขึ้นมาว่าจะต้องมีการปรับมาตรการการใช้และครอบครองอาวุธ ก็ต้องทำ
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าผู้ก่อเหตุมีภาวะความเครียด จะต้องทบทวนมาตรการดูแลอาวุธไม่ให้ซ้ำรอยเหตุจ่าคลั่งโคราชหรือไม่ นายสุทิน ว่า ความเครียด เกิดได้กับทุกองค์กร ไม่เฉพาะกับทหาร ข้าราชการกระทรวงอื่น ประชาชนทั่วไป ก็เครียด และก็มักเกิดเหตุแบบนี้ เพราะฉะนั้นทหารที่มีกำลังพลเยอะ คนเยอะ ก็ไม่ต่างจากประชาชน แต่อย่างว่าเรายังไม่ถือเป็นปัญหาของโครงสร้าง แต่เป็นปัญหาระดับบุคคล ซึ่งผู้บังคับบัญชา ก็จะต้องสอดส่องดูแล ต้องละเอียดเข้าไปดูถึงภาวะจิตใจของผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยว่าเหตุใดที่ทำให้เขาเครียด การบริหาร การบังคับบัญชา หรือภาวะหนี้สิน สิ่งเหล่านี้จะต้องเข้าไปแก้ไข
เมื่อถามว่า แต่กระทรวงกลาโหมแตกต่างจากหน่วยอื่นเพราะเครียดแต่มีอาวุธในมือด้วย นายสุทิน ระบุ ว่า อันนี้ก็ใช่ เครียดแต่มีอาวุธ ซึ่งสิ่งนี้ต้องให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแล
ส่วนจะทบทวนการใช้อาวุธและถือครองอาวุธของกำลังพลหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า เดี๋ยวคณะทำงานก็คงพูดคุยกันเรื่องนี้เดี๋ยวคงมีมาตรการออกมา