โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯเยือนต่างประเทศดึงดูดนักลงทุนภาคเอกชนส่งผลให้  ไทย-สหรัฐฯ จับมือตั้งคณะทำงานร่วมเจรจาการลงทุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไทย  เป็นการต่อยอดไปสู่การร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น

    
 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในการนำเสนอความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นฐานการผลิตของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แก่ผู้นำรัฐบาลและภาคเอกชนในเวทีต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม หลังนักธุรกิจหลายรายที่เป็นสมาชิกของสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (The Presidents Export Council: PEC) ซึ่งได้เดินทางมาเยือนไทย พร้อมกับ นางจีนา เอ็ม. เรมอนโด (The Honorable Gina M. Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แสดงความสนใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งไทย-สหรัฐฯ ต่างเห็นพ้องกันที่จะมีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป
    
 นายชัย กล่าวว่า ความต้องการใช้ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มมากขึ้นจากปัจจัยการเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยภาคเอกชนสหรัฐฯ มองว่าไทยเป็นประเทศทางเลือกอันดับแรกๆ ที่อยู่ในการพิจารณาเพื่อกระจายความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทานในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยไทยมีศักยภาพ ความได้เปรียบในเรื่องทำเล และไม่อยู่ในความขัดแย้ง ประกอบกับนายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินธุรกิจสีเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ Ignite Thailand สนับสนุนอุตสาหรรม 8 ด้านในไทย สอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือในด้านการลงทุนระหว่างไทย-สหรัฐฯ จะเป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และขยายห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทยได้
       
การตั้งคณะทำงานร่วมไทย-สหรัฐฯ เพื่อเจรจาเรื่องการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไทยเป็นอีกตัวอย่างของความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ ผ่านการสร้างการรับรู้ให้นานาชาติ และดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน เชื่อมั่นความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทย รวมถึงต่อยอดไปสู่การร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอนาคต ทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าสู่เศรษฐกิจไทย รวมถึงช่วยยกระดับทักษะฝีมือแรงงานคนไทย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันไทยได้อีกมากในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้วย นายชัย กล่าว