"โฆษกก้าวไกล" ยัน “พิธา” ลงพื้นที่เชียงใหม่ติดตามแก้ไฟป่า ไม่เกี่ยว “นายกฯ-ทักษิณ” ไม่เทียบรัศมีอยู่ที่คนมอง 

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 เวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ (16 มี.ค. 67) ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีอยู่ในพื้นที่พอดี ว่า เป็นแผนการดำเนินงานของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับเรื่องไฟป่า ที่วางแผนล่วงหน้ามานานแล้ว เพราะเป็นการศึกษาผลกระทบ ที่มีต่อประชาชนในภาคเหนือ เพื่อหวังจะถอดบทเรียน ในการนำเสนอนโยบายและการแก้ไขปัญหา พร้อมยืนยันไม่ได้มีการจัดตารางลงพื้นที่ชนกัน กับนายกรัฐมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่ามองภาพนายเศรษฐา นายทักษิณ และนายพิธาลงพื้นที่พร้อมกัน ที่เหมือน 3 นายกฯ ในวันเดียวกัน นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลยึดถือ มาตลอดยึดปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะมีปัญหาของประชาชนเยอะมาก โดยเฉพาะปัญหาไฟป่า พร้อมย้ำว่าจะนำปัญหาดังกล่าวมาผลักดันโดยกลไกของสภา จึงไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำมาตลอด ว่าเราไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง ในการทำหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรับใช้ประชาชน

เมื่อถามว่าประชาชนอาจจะคิดว่าเป็นการเปรียบเทียบรัศมี โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะวิเคราะห์แต่ขอยืนยันข้อเท็จจริงและยืนยันต่อสาธารณะว่าพรรคก้าวไกลดำเนินการเรื่องไฟป่า พร้อมย้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงพื้นที่ของใคร เพราะการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ใน 16 จังหวัด ที่พรรคก้าวไกลประกาศ รับสมัคร นายก อบจ. ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์และเป็นแรงจูงใจ ให้คนมาสมัคร ส่วนจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 16 จังหวัดหรือไม่ต้องรอผลการคัดเลือก เพราะจะเน้นผู้สมัครที่มีคุณภาพ ไม่ได้เน้นจำนวนเพียงอย่างเดียว เน้นบุคลากรที่เชื่อมั่นว่าจะชนะการเลือกตั้งด้วย

เมื่อถามว่าเรื่องไฟป่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายทั่วไป อาจจะเป็นโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ว่า อาจจะเป็นหนึ่งในประเด็นการอภิปราย แต่ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการคัดเลือก สส. ไปอภิปรายว่าผ่านการคัดเลือกหรือไม่และหัวข้ออะไร เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะใช้เวลาอภิปราย ทั้ง 2 วันให้ครอบคลุมนโยบายสำคัญ ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม

เมื่อถามว่ามองหน่วยงานราชการที่เข้ารายงานนายทักษิณระหว่างลงพื้นที่เชียงใหม่อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ต้องให้รัฐบาลตอบว่า การดำเนินการทั้งหมด เป็นไปตามระเบียบราชการหรือไม่ ดังนั้น เรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมในการจัดสรรบุคลากรไปให้ข้อมูล จึงเป็นคำถามที่รัฐบาลควรตอบ

เมื่อถามว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไปคอยให้การต้อนรับนายทักษิณ ที่เชียงใหม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเห็นคำชี้แจงที่ผ่านมาว่าไปภารกิจอื่น แต่หากประชาชนยังเคลือบแคลงสงสัย เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ต้องชี้แจงให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่ได้มีการจัดสรรบุคลากรภาครัฐ ที่ไม่เหมาะสม แม้รัฐมนตรีจะอ้างว่าลางานไป แต่เป็นสิ่งที่จะต้องตอบ และสิ่งที่พรรคก้าวไกล เวลาเลือกจะไปจังหวัดไหนจะยืดปัญหาประชาชนไปที่ตั้ง เป็นมาตรฐานที่หวังว่า พรรคการเมืองอื่น ทุกพรรคจะนำไปใช้

”ถ้าหากประชาชนสงสัยเรื่องมีนายกฯหลายคน ก็เป็นสิ่งที่นายเศรษฐา จะต้องให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน ว่าถึงแม้จะมี สิทธิปรึกษาใครหลายคน แต่การตัดสินใจทุกอย่าง จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน”นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่เชียงใหม่ขอบนายทักษิณจะทำให้กระแสพรรคก้าวไกลลดลงหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลปีที่แล้วเป็นอย่างไรปีนี้ก็เป็นเช่นนั้น ใครที่เคยสนับสนุน ก้าวไกลในการเลือกตั้ง เราก็จะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล และหวังว่าการทำงานของก้าวไกล จะทำให้คนที่ยังไม่ตัดสินใจ เลือกเปิดใจมาให้โอกาสมากขึ้น