“อดีตรองโฆษกปชป.” กระตุก “ฝ่ายค้าน” ทำทองไม่รู้ร้อนปล่อย “สปก.-อุทยาน” แทนที่จะตรวจสอบรักษาผลปย.ชาติ รับไม่ได้ใช้แผนที่ทหารประสานรอยร้าว หวังจบแบบแฮปปี้เอนดิง แนะนายกฯทบทวนนโยบายก่อนนายทุนรุกคืบฮุบสมบัติชาติ บี้ป.ป.ช. เร่งเปิดเผยผลศึกษา-เฝ้าระวังสกัดก่อนปัญหาบานปลาย
วันที่ 7 มี.ค.2567 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง การเมืองเปิดทางนายทุนฮุบที่ดิน จบแบบไม่มีอะไรในกอไผ่? มีเนื้อหาระบุว่า เห็นข่าวที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุจากการตรวจสอบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 142 แห่ง จาก 157 แห่งทั่วประเทศ พบมีพื้นที่ทับซ้อนกับ ส.ป.ก.4-01 ประมาณ 2 แสนไร่แล้ว ไม่สบายใจอย่างยิ่ง แม้นายกฯ จะออกโรงประกาศว่าปมพิพาทที่ดินต้องเป็นไปตามกฎหมายแล้ว แต่ผมคิดว่าบทบาทและท่าทีแบบนี้ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา หนักไปกว่านั้นกลับมาลักษณะประนีประนอมยอมความ เกี้ยเซี๊ยะ วางธงว่าไม่มีหน่วยงานใดผิด โดยใช้แผนที่ทหารเป็นเครื่องมือ หวังจบแบบแฮปปี้เอนดิง ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น
นายเชาว์ กล่าวต่อว่า เราต้องไม่ลืมว่าการรุกล้ำพื้นที่อุทยานฯ ของสปก.ในช่วงนี้ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับนโยบายแปลง ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดิน ซึ่งตอนที่คิดนโยบายก็มีเสียงค้านจากหลายฝ่าย อย่าทำนะ ทำเมื่อไหร่นายทุนจะเข้ามาฮุบสปก.4-01 แต่รัฐบาลก็ไม่นำพา ปล่อยให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เดินหน้าอย่างสะดวกโยธิน สุดท้ายหลักฐานปรากฏมีการไปปักหมุดพื้นที่ทับซ้อนอุทยานฯ มากถึง 2 แสนไร่ น่าแปลกที่ฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือ ประชาธิปัตย์ กลับทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อน ทั้งที่เป็นหน้าที่ของผู้แทนปวงชนชาวไทย ในการรักษาทรัพย์สมบัติชาติ ควรออกมาตรวจสอบอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องพิพาทระหว่างสองหน่วยงานคือ สปก.กับอุทยานฯ หรือให้เรื่องค้างเติ่งในกรรมาธิการฯ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่เรื่องนี้สำคัญถึงขั้นที่ต้องกำหนดเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะซักฟอกแบบไม่ลงมติด้วย ขณะที่นายกฯ ก็ต้องตระหนักทบทวนได้แล้วว่า นโยบายแปลงสปก.4-01 เป็นโฉนดที่ดิน ส่งผลกระทบอะไรบ้าง ควรพิจารณายกเลิกนโยบายนี้ก่อนจะเกิดปัญหาบานปลายหรือไม่
“ผมขอส่งเสียงดัง ๆ ไปถึงป.ป.ช. ที่มีการตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังนโยบายนี้ ให้ออกมาเปิดเผยผลศึกษาที่ได้ว่าเป็นอย่างไร มีคำแนะนำถึงรัฐบาลหรือยังว่าควรดำเนินการเรื่องนี้แบบไหน บอกกับสาธารณชนให้ชัด เพื่อช่วยกันประเมิน ตรวจสอบ ไม่ใช่ทำงานอืดเป็นเรือเกลือ กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ แก้ไขอะไรได้ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ส.ป.ก.4-01 เป็นเอกสารที่แสดงการครอบครองที่ดินให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ เพื่อใช้ทำเกษตรกรรมเท่านั้น เป็นหลักการที่ควรนำกลับมาใช้ ไม่ใช่ไปเปิดทางนายทุนเข้ามารุกที่ดินอุทยานฯ เหมือนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้” นายเชาว์ ระบุ