"นายกฯ" โล่งใจเคลียร์ปม “สปก.”ทับซ้อนอุทยานฯเขาใหญ่จบเร็วเกินคาด ชื่นชม "กรมแผนที่ทหาร" ทำงานรวดเร็ว  ด้าน”ธรรมนัส” ลุยจัดการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรุกป่าทุกคน ขู่ยึดคืนพื้นที่”สปก.”ที่ทำผิดระเบียบ พร้อมสั่งตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเขาใหญ่ทั้งหมด ยัน”เกษตรฯ-ทส.”จูบปากกันแล้ว 

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ถึงการแก้ปัญหาออกเอกสาร ส.ป.ก.ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า เรื่องนี้มีทางออกที่ชัดเจน จากการพูดคุยกับทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงกรมแผนที่ทหาร ในการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยการสำรวจพื้นที่ของกรมแผนที่ทหาร สามารถเดินสำรวจพื้นที่ได้เร็วกว่าที่คาดไว้ จากเดิมคาดว่าจะจบภายใน3 สัปดาห์ แต่ปรากฏว่าใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียว


ส่วนข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะยึดหลักการโดยจะประกาศว่าจะไม่นำที่ดินตามแนวเขตกันชน หรือพื้นที่คาบเกี่ยว มาใช้แบ่งที่ดินเพื่อจัดสรรเป็นที่ดิน ส.ป.ก.และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเรื่องการปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าว โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกป่า
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดินของรัฐทุกประเภท จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อเข้าสำรวจและหาข้อยุติในพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเป็นผู้ชี้แจงแถลงข่าวเอง 


ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรมแผนที่ทหารได้ทำหนังสือถึงนายกฯ หลังจัดทำแผนที่ One map กรณีนี้เสร็จแล้ว นายกฯ จึงสั่งการให้ตนพร้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าว โดยยืนยันว่าทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีใครผิดใครถูก เนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ไม่มีใครมีเจตนาร้ายที่จะไปทำลายทรัพย์สินส่วนราชการของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน 


ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอชื่นชม นายไชยา ห้วยหงส์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักงานอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และทีมงาน ที่กล้าหาญลุกขึ้นมาปกป้องป่า โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินที่มีพฤติกรรมส่อผิดกฎหมายในการออกเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก. พร้อมทั้งมอบที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายร้องกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดังนั้นตรวจพบผิดตามกฎหมายก็จะดำเนินคดีมาตรา 157 ผิดวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการรังแกข้าราชการ หากดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ใจก็อย่าไปกลัว แต่หากประพฤติมิชอบก็จะดำเนินการเอาผิด


ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าหนังสือที่เจ้ากรมแผนที่ทหารนำเสนอต่อนายกฯ ระบุชัดเจนว่าพื้นที่ที่ส.ป.ก.ไปปักหมุดอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน แต่เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ จึงเห็นว่าควรกันเป็นพื้นที่กันชน ซึ่งถ้าตนเป็นส.ป.ก.จังหวัด ถ้าถามจิตสำนึกตามที่นายนชัยวัฒน์ระบุก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งที่จะนำพื้นที่นี้มาทำเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ยืนยันว่าได้หารือกับพล.ต.อ.พัชรวาท ปลัด 2 กระทรวง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เห็นพ้องว่าต้องแก้ปัญหาไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทะเลาะกัน แต่ไม่โทษใคร เพราะต่างฝ่ายถือแผนที่คนละฉบับ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง  


นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ส.ป.ก.รอบเขาใหญ่ทั้งหมดว่าจัดสรรที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเกษตรกรเข้าไปทำกินหรือไม่ หากพบว่าเป็นรีสอร์ตหรือโรงแรมจะยึดคืน เรื่องนี้ได้ให้สำรวจทั่วประเทศด้วยในลักษณะเดียวกัน หากพื้นที่ยังไม่ได้จัดสรร ทาง 2 หน่วยงานมีการหารือกันแล้วว่าจะทำเป็นป่ากัน ดังนั้นใครที่ไม่ได้ใช้พื้นทีทำการเกษตรหรือไม่ใช่เกษตรกรจริงก็ขอให้มอบตัวซะ อย่าให้ฝ่ายกฎหมายลงไปจัดการ พื้นที่นี้จะทำผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้ ทั้งนี้ยำว่าพื้นที่ที่มีปัญหาไม่ว่าจะกี่แปลงก็จะเพิกถอนให้หมด เรื่องในบ้านเมื่อเมื่อคุณทำผิด คุณส่อเจตนาอะไร เรารู้หมด ใครทำอะไรอญู่ ก็รับกรรมไปแล้วกัน เราไม่มีละเว้น   


“ท่านนายกฯ ลงมาสั่งการด้วยตัวเอง ไม่ให้เกิดข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ เมื่อเช้าผมประชุมที่ดิน 72 จังหวัด และได้ข้อสรุปว่า ต่อจากนี้ 2 หน่วยงานจับมือพิทักษ์ป้า พื้นที่อุทยานด้วยกัน ทำกันชนทั้งประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา” ร.อ.ธรรามนัส กล่าวและว่า ขอยืนยันว่าตนกับพล.ต.อ.พัชรบาทไม่มีข้อบาดหมาง หรือขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง เปรียบเสมือนเป็นเด็กก็ให้ความเคารพนับถือ